📣 12 ลุ้น! ของคนทำเด็กหลอดแก้ว
ปัจจุบันหลายๆครอบครัวประสบปัญหามีบุตรยาก ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้ว นับว่าเป็นอีกทางออกที่ช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรได้
.
เด็กหลอดแก้วเป็นการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์โดยมีการกระตุ้นไข่ นำไข่ที่ดีและตัวอสุจิที่แข็งแรงมาช่วยทำการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดเป็นตัวอ่อนจากนั้นเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะ Day 3-5 (day 5 เรียกว่าระยะบลาสโตซีสต์) แล้วทำการเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมเพื่อย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก และเกิดการฝังตัวที่สมบูรณ์ต่อไป
.
ซึ่งในแต่ละขั้นนั้นถือว่าลุ้นมากเลยค่ะ เรามาดูกันว่า "12 ลุ้น! ของคนทำเด็กหลอดแก้ว" นั้นมีอะไรบ้าง?
.
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ใต้รูปแต่ละรูปเลยค่ะ ครูก้อยเขียนเอาไว้ให้อย่างละเอียดค่ะ
1. ลุ้นจำนวนไข่สุก
เมื่อเข้ากระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว พอรอบเดือนมา 1-3 วันหมอจะให้ยามาฉีดกระตุ้นไข่ที่บริเวณหน้าท้องเป็นเวลา 8 ถึง 12 วัน โดสยาขึ้นกับการตอบสนองของฮอร์โมนของแต่ละคน ไข่จะเริ่มเจริญเติบโตไปเรื่อยๆ จนถึง day 14 ของรอบเดือน(นับวันที่มีประจำเดือนมาวันแรกเป็น day1) ไข่ที่สมบูรณ์จะโตตามเกณฑ์ประมาณ 20 มิลลิเมตรหมอจะอัลตราซาวด์ดูจำนวนไข่ที่ขึ้นเติบโตตามเกณฑ์ ได้ขนาด แล้วประเมินจำนวนไข่คร่าวๆ ให้ทราบว่ามีกี่ใบ ก่อนที่จะนัดเก็บไข่
ถึงวันนัดเก็บไข่ ฝ่ายหญิงจะต้องดมยาสลบแล้วหมอจะดูดไข่ออกมาใส่ในจานเพาะเชื้อจากนั้นจะแจ้งจำนวนไข่สุก ว่าได้กี่ใบ ซึ่งไข่ที่พร้อมในการทำอิ๊กซี่(พร้อมที่จะนำสเปิร์มมาเจาะ) นั้นจะต้องเป็นไข่สุกเท่านั้น
ดังนั้นการบำรุงไข่ก่อนไปทำเด็กหลอดแก้วจึงสำคัญมาก เพราะมันเป็นตัวบอกความสวย สมบูรณ์และจำนวนของไข่ที่ใช้งานได้
2. ลุ้นปฏิสนธิ
อัตราการปฏิสนธิที่ดีต้องเกิน 75% ของไข่สุกพี่เก็บมาได้ ยกตัวอย่างเช่น เก็บไข่สุกมาได้ 10 ใบจะต้องปฎิสนธิเป็นตัวอ่อนได้ประมาณ 7-8 ตัว 3. ลุ้นบลาสต์
ตัวอ่อนที่ปฏิสนธิในวันแรก Day 1 จะต้องมีชีวิตอยู่รอด แตกเซลล์ทวีคูณ เติบโตทุกวันตามเกณฑ์
(Day 1 👉Day2👉Day3👉👉Day5 )
ไปจนถึงระยะบลาสโตซิสต์ (Day 5) ในอัตรา 50% ของตัวอ่อน Day 3
เช่น ตัวอ่อนที่ปฏิสนธิใน Day 1 ได้ 10 ตัว เหลือเป็น Day 3 จำนวน 8 ตัว จะต้องถึงระยะบลาสโตซีส 50% จาก Day3 คือ ถึงบลาสต์อย่างน้อย 4 ตัว
4. ลุ้นผลตรวจโครโมโซม/ ลุ้นเพศ
สำหรับผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป จะมีข้อบ่งชี้ให้สามารถส่งตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนทำการใส่กลับเข้าไปสู่ที่โพรงมดลูกได้ ซึ่งหมอจะคัดและจะส่งตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ที่ดูสวย แข็งแรง ไปตรวจโครโมโซม
ใช้เวลา 7-10 วันก็จะทราบว่าตัวอ่อนตัวนั้นมีโครโมโซมภายในปกติหรือไม่ ผลพลอยได้ที่ทำให้ทราบอีกอย่างหนึ่ง คือเพศของตัวอ่อนนั่นเอง
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับแต่ละคลีนิค ครูก้อยทำที่ GFC
ส่งตรวจ 4 ตัวอ่อน จ่ายเพิ่มจากโปรแกรมทำ ICSI อีก 75,000 ค่ะ (2 ตัวแรก 45,000 ตัวถัดไป ตัวละ 15,000)
5. ลุ้นผนังมดลูก
เมื่อได้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์แล้วผ่านการคัดโครโมโซมเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการเตรียมผนังมดลูก โดยจะต้องรอให้มีประจำเดือนมา หลังจากนั้นคุณหมอจะให้ยามากินหรือสอด ซึ่งเป็นยาประเภทฮอร์โมนเอสโตรเจน เพื่อช่วยทำให้ผนังมดลูกมีสภาพที่พร้อมในการฝังตัว ระหว่างนั้นเราก็จะทานอาหารที่ทำให้มดลูกอุ่นและทำให้มดลูกหนาฟูโดยเน้นการทานอาหารประเภทโปรตีนสูง และอาหารที่ทำให้เลือดไหลเวียนดี มีฤทธิ์อุ่น
ผนังมดลูกพี่พร้อมในการฝังตัว จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ 4 ข้อนี้ค่ะ
มีความหนา 8 ถึง 10 มิลลิเมตร
เรียงสามชั้นสวย เรียงแนวเดียวกัน ผิวเรียบ เห็นเส้นกลางชัด
ใสเป็นวุ้น ไม่ขุ่น ไม่หนาทึบ
มดลูกอุ่น มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเพียงพอ และไม่มีสารพิษตกค้าง
6. ลุ้นละลายตัวอ่อน
เมื่อถึงวันนัดย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก
นักวิทยาศาสตร์จะทำการละลายตัวอ่อนที่แช่แข็งเอาไว้ โอกาสที่ตัวอ่อนหลังละลายจะไปต่อ ไม่ฝ่อ ไม่ตาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอ่อน และประสิทธิภาพของห้อง lab
7. ลุ้นติด ไม่ติด
หลังใส่ตัวอ่อน หมอจะทำการนัดเจาะเลือดเพื่อเช็ค ฮอร์โมน beta -Hcg ว่าตั้งครรภ์หรือไม่? หลังใส่ตัวอ่อนระยะบลาสต์ 9 -10 วัน
แต่ส่วนใหญ่ แม่ๆ ก็จะอดใจไม่ไหว มักจะแอบเทสก่อน ด้วยแผ่นตรวจตั้งครรภ์ ประมาณ 7-8 วันหลังใส่ ก็เห็นสองขีดจางๆแล้วค่ะ (ถ้าติด)
8. ลุ้นหลุด ไม่หลุด
ถ้าเกิน 14 วันหลังใส่ตัวอ่อน ถ้าไม่ติด ปจด. ก็จะมาค่ะ หรืออาจมาช้ากว่าปกตินะคะเพราะฤทธิ์ของฮอร์โมนที่ใช้สอดช่งคลอดค่ะ (โปรเจสเตอร์โรน)
สำหรับบางคนติดแล้ว ตรวจเจอ 2 ขีดแล้ว แต่ต้วอ่อนฝ่อ ไม่ไปต่อ ไม่เกินอายุครรภ์ 3 เดือน ก็หลุดค่ะ เป็นการแท้งครบตามธรรมชาติ สาเหตุส่วนใหญ่เพราะโครโมโซมตัวอ่อนผิดปกติ หรือตัวอ่อนด้อยคุณภาพ หรือมาจากผนังมดลูกบาง ไม่พร้อมในการฝังตัว
9. ลุ้นถุงตั้งครรภ์
หลังจากเจาะเลือดเช็คว่าท้องเรียบร้อยแล้ว หมอจะทำการนัดเพื่ออัลตร้าซาวด์ถุงตั้งครรภ์เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์
เมื่อเจอถุงตั้งครรภ์ก็เป็นสัญญาณดี แต่ก็ยังคงลุ้นต่อว่า ภายในถุงตั้งครรภ์นั้นมีตัวอ่อนอยู่หรือเปล่าถ้ามีแต่ถุงตั้งครรภ์ แต่ไม่มีตัวอ่อน นั่นหมายความว่า “ท้องลม” ซึ่งคือการแท้งชนิดหนึ่งตามธรรมชาติ เป็นเพราะโครโมโซมในตัวอ่อนผิดปกติ
10. ลุ้นเสียงหัวใจ
เมื่ออัลตร้าซาวด์เจอถุงตั้งครรภ์และถุงไข่แดงเรียบร้อยแล้ว ต้องเช็คเสียงหัวใจของทารก ซึ่งมักจะได้ยินชัดเจนประมาณ 6-7 สัปดาห์ 11. ลุ้นผลตรวจ NIPT
เมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 11 ถึง 14 สัปดาห์ก็จะทำการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางโครโมโซมและโรคทางพันธุกรรม Noninvasive prenatal testing (NIPT) ซึ่งเป็นการเจาะเลือดตรวจเช็คโครโมโซมของทารกทุกคู่ ว่ามีความผิดปกติไหม
เป็นการคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วย และจะทราบเพศด้วยค่ะ
กรณีคนที่คัดโครโมโซมตัวอ่อนก่อนใส่กลับเข้าสู่โพรงมดลูก อาจจะตรวจ NIPT หลังตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่งเพื่อเช็คชัวร์ ให้เกิดความสบายใจก็สามารถทำได้ค่ะ หรือจะไม่ตรวจแล้วก็ได้เนื่องจากเราได้ผ่านการคัดโครโมโซมตัวอ่อนมาแล้ว
ค่าใช้จ่ายอยู่ราว 15,000-18,000 บาท ค่ะ 12. ลุ้นอวัยวะ
หลังจากรู้ว่าท้องแล้ว เจอถุงตั้งครรภ์แล้วเจอหัวใจเด็กเต้นเรียบร้อยแล้ว จากนั้นคุณหมอจะทำการนัดอัลตร้าซาวด์ผ่านทางช่องคลอดทุกๆ2 สัปดาห์ในไตรมาสแรก เพื่อเช็คความผิดปกติของทารกค่ะ
Comments