top of page
ค้นหา

9 ทริค ไข่สวย มดลูกพร้อม ฮอร์โมนดี มีลูกง่าย!


9 ทริค ไข่สวย มดลูกพร้อม ฮอร์โมนดี มีลูกง่าย!

🎯อยากเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ จงให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งนี้ค่ะ

ไข่ ➕ มดลูก ➕ฮอร์โมน

✅บำรุงไข่ให้สมบูรณ์

✅บำรุงมดลูกให้พร้อม

✅บำรุงฮอร์โมนให้สมดุล


🤰ในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งนั้นเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มีกระบวนการเริ่มขึ้นเมื่อ อสุจิ กับ ไข่ มาปฏิสนธิกันและเติบโตเป็นตัวอ่อนอยู่ในมดลูกของฝ่ายหญิงจนถึงถึงวันที่คลอดลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลก


👩ผู้หญิงเราเกิดมาพร้อมเซลล์ไข่กว่า 7 ล้านเซลล์ ฟังดูเหมือนไข่ของเราเยอะมาก และไม่มีวันหมดแน่ๆใช่มั้ยคะ แต่ความจริงแล้ว...ตามธรรมชาติไข่จะฝ่อไปเรื่อยๆ ทั้งจากอายุที่มากขึ้น และจากการถูกทำลายจากเจ้าอนุมูลอิสระตัวร้าย จนเมื่อถึงเราเข้าวัยมีประจำเดือน ไข่เราจะเหลือแค่ประมาณ 7 แสนใบ แต่ทั้งนี้จะมีไข่ที่มีผลทำให้ตั้งครรภ์ได้เพียงแค่ 400-500 ฟองเท่านั้น เพราะการตกไข่แต่ละครั้งจะมีไข่เพียงฟองเดียวที่สมบูรณ์


🟠#ไข่ คือ วัตถุดิบตั้งต้นที่จะทำให้เราท้อง ไข่ใบน้อยๆใบนี้จะกลายไปเป็นลูกของเราในอนาคต ในร่างกายเรามีเซลล์หลายล้านเซลล์

ไข่ก็คือเซลล์ และมันเป็นเซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย แถมยังเซนซิทีฟต่ออนุมูลอิสระมากๆอีกด้วย เสื่อมง่าย เสียหายง่าย ฝ่อง่าย มันจึงเป็นปัญหาที่ทำให้เราพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่สำเร็จเสียที ตราบใดที่วัตถุดิบตั้งต้นเรายังไม่สมบูรณ์ ไข่เรายังไม่สวย ยังมีขยะเซลล์ ยังฝ่อเสียหาย พยายามครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ติด!


🟠 #มดลูก คือ บ้านหลังแรกของลูก เมื่อไข่ที่สมบูรณ์ปฏิสนธิกับสเปิร์มที่แข็งแรง เกิดเป็นตัวอ่อนคุณภาพดี ค่อยๆแบ่งเซลล์และเดินทางเข้ามาฝังตัวที่บ้านหลังนี้ บ้านที่ดีต้องอุ่น มีเลือดไหลเวียนดี มีความหนาตัว โปร่ง ฟู และแข็งแรง พร้อมโอบอุ้มตัวอ่อนไม่ให้หลุดหรือแท้งไป


🟠 #ฮอร์โมนที่สมดุล เปรียบเสมือนน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ฮอร์โมนเป็นตัวควบคุม และกระตุ้นกิจกรรมต่างๆของร่างกายให้เป็นไปอย่างปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศต้องสมดุลจึงจะส่งผลให้มีลูกง่าย ฮอร์โมนมีผลตั้งแต่การผลิตไข่ การกระตุ้นไข่ให้มีการเจริญเติบโต ฮอร์โมนทำให้ไข่ตกออกจากถุงไข่ รวมถึงการทำให้ผนังมดลูกฟอร์มหนาตัวขึ้นเพื่อเพิ่มความพร้อมให้ตัวอ่อนฝังตัว


วันนี้ครูก้อยมี 9 ทริค เทคนิคบำรุง..

ไข่ให้สวย➕มดลูกให้พร้อม➕ฮอร์โมนให้สมดุล

แม่ๆ นำไปปฏิบัติตามนะคะ บำรุงดีแบบนี้ร่างกายก็จะสมบูรณ์แข็งแรงในองค์รวม อีกไม่นานเจ้าตัวน้อยก็จะมาเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวค่ะ




1.โปรตีนต้องถึง


🟠 #โปรตีนคืออะไร❓


โปรตีน คือสารอาหารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นสำหรับร่างกาย มีหน้าที่สร้างความแข็งแรง การเจริญเติบโตขิงร่างกายและช่วยในการทำงานของกระดูก กล้ามเนื้อ และผิวหนัง


🟠#โปรตีนสำคัญอย่างไรต่อการทำงานของร่างกาย❓


👉รู้ไหมคะว่าร่างกายของเราประกอบด้วยโปรตีนถึง 75%


👉องค์ประกอบสำคัญในทุก ๆ เซลล์ของร่างกาย ทั้งกระดูก กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ ผิวหนัง เลือด หรือแม้แต่เส้นผมและเล็บประกอบขึ้นด้วยโปรตีนเป็นหลัก


👉โปรตีนมีหน้าที่สร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ มีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโต


👉ช่วยสังเคราะห์เอนไซม์ ฮอร์โมน และสารเคมีต่าง ๆ ในร่างกาย


👉เป็นโครงสร้างของร่างกายเป็นโครงกระดูกโดยจะมีแคลเซียมฟอสฟอรัสและเกลือแร่มาช่วยทำให้แข็งขึ้น


👉ทำหน้าที่ในการเป็นส่วนประกอบของอวัยวะและเซลล์


👉ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และสารอาหารต่าง ๆ ไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย


👉คงความสมดุลของของเหลวในร่างกาย


👉ทำหน้าที่สร้างสารภูมิต้านทานเพื่อต่อต้านการติดเชื้อ


🟠 #ทำไมต้องทานโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน❓


👉โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการในปริมาณมากในแต่ละวันเช่นเดียวกับไขมันและคาร์โบไฮเดรต


👉ส่วนวิตามินและแร่ธาตุนั้นเป็นสารอาหารรองที่ต้องการเพียงปริมาณเล็กน้อยต่อวัน


👉นอกจากนี้ โปรตีนยังแตกต่างจากสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันตรงที่ร่างกายของคนเราจะไม่สามารถเก็บสะสมโปรตีนไว้ใช้ในภายหลังได้อย่างคาร์โบไฮเดรตและไขมัน


🎯การได้รับสารอาหารโปรตีนอย่างครบถ้วนในแต่ละวันถือเป็นสิ่งสำคัญค่ะ


🟠#เราจะได้รับโปรตีนจากแหล่งใด❓


👉ประเภทของโปรตีนที่รับประทานมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการรักษาสุขภาพโดยรวม ซึ่งสารอาหารโปรตีนชนิดดีที่ผู้เชี่ยวชาญทางสารอาหารแนะนำให้รับประทาน ได้แก่ แหล่งโปรตีนจากปลา ไข่ เนื้อเป็ด เนื้อไก่ ถั่วชนิดต่าง ๆ รวมถึงธัญพืชขัดสีน้อยที่ให้ทั้งโปรตีนและเส้นใยอาหาร


👉นอกจากนี้ การเพิ่มโปรตีนจากพืชเสริมอย่างเช่นอาหารจากถั่วเหลืองก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะให้โปรตีนในปริมาณที่เทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ และเป็นแหล่งไขมันที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย


👉การเลือกรับประทานโปรตีนจากสัตว์ใหญ่ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อแกะนั้นถึงแม้เป็นแหล่งโปรตีนที่ให้พลังงานสูง แต่บางครั้งก็มีไขมันและคอเลสเตอรอลอันเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ การรับประทานเนื้อเหล่านี้จึงควรเลือกที่ไม่ติดมัน ซึ่งจะเป็นเนื้อส่วนสะโพกและเนื้อส่วนหลังที่มีไขมันอิ่มตัวน้อยพอ ๆ กับเนื้ออกไก่ไร้หนัง


🟠 #ร่างกายต้องการโปรตีนในปริมาณเท่าใดต่อวัน❓


ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการต่อวันนั้นขึ้นอยู่กับอายุ เพศ สุขภาพ น้ำหนัก พฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าในแต่ละวันควรได้รับพลังงานกี่แคลอรี่ ดังข้อมูลต่อไปนี้เป็นปริมาณโปรตีนที่แต่ละช่วงวัยควรได้รับต่อวัน (ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม)


💗เด็กอายุ 1-3 ขวบ ควรได้รับโปรตีน 1.2 กรัม เฉลี่ย 15 กรัม


💗เด็กอายุ 3-7 ขวบ ควรได้รับโปรตีน 1.1 กรัม

เฉลี่ย 26 กรัม


💗เด็กโตอายุ 7-14 ปี ควรได้รับโปรตีน 1 กรัม

เฉลี่ย 45 กรัม


💗ผู้ใหญ่ชายหญิง ควรได้รับโปรตีน 1 กรัม

เฉลี่ย 55 กรัม


💗หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับโปรตีน 1.3 กรัม

เฉลี่ย 75 กรัม


💗หญิงให้นม ควรได้รับโปรตีน 1.5 กรัม

เฉลี่ย 80 กรัม


🟠#ผู้หญิงบำรุงไข่ #วางแผนตั้งครรภ์ควรได้รัยโปรตีนเท่าไหร่ต่อวัน❓


👉 #สำหรับผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ #ต้องบำรุงไข่เพื่อเตรียมตัวเก็บไข่ ครูก้อยแนะนำให้ทานโปรตีนมากกว่าปกติผู้หญิงปกติ เพราะในการบำรุงไข่นั้นโปรตีนมีความสำคัญมากในการช่วยให้ไข่อ้วนโตสมบูรณ์


💗 โดยควรได้รับโปรตีน 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ค่ะ เช่นถ้ามีน้ำหนัก 50 กก. ควรได้รับโปรตีน 75 กรัม ต่อวัน


👉การที่เราบำรุงไข่เพื่อไปเก็บไข่นั้น เราต้องการให้ไข่สมบูรณ์และผลิตออกมาได้จำนวนมากเพื่อจะได้นำไปใช้ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว เพิ่มโอกาสการมีจำนวนตัวอ่อนที่มากขึ้น


👉 #การทานโปรตีนให้เพียงพอจะช่วยบำรุงรังไข่ให้ทำงานเป็นปกติ #ผลิตเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์แข็งแรง


🎯ดังนั้นหากเราทานอาหารที่ให้โปรตีนต้องทานให้ถึงปริมาณ 75 กรัมต่อวัน เช่น...


👉ในไข่ไก่ 1 ฟองส่วนให้โปรตีน 6 กรัม หากเราต้องการโปรตีน 75 กรัม เราต้องทานไข่ไก่ประมาณวันละ 13 ฟอง


👉เนื้ออกไก่ 100 กรัมให้โปรตีน 23 กรัม เราต้องทานประมาณ 300 กรัมต่อวัน


👉ปลาแซลมอน 100 กรัมให้โปรตีน 20 กรัม เราต้องทานประมาณ 400 กรัมต่อวัน


🎯 #ซึ่งในชีวิตประจำวันเราไม่สามารถทานอาหารในปริมาณมากอย่างนั้นได้ เพื่อให้ได้รับโปรตีนที่เพียงพอ การทานโปรตีนเสริมจึงเป็นทางออกสำหรับแม่ๆ บำรุงไข่ค่ะ


🎯โปรตีน Ferty เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากพืชที่หลากหลายทั้งถั่วเหลือง ถั่วลูกไก่และโปรตีนจากข้าว (Rice Protein) อยู่ในรูปแบบของ Isolated Protein โปรตีนโมเลกุลเดี่ยวที่ดูดซึมได้ทันที ผสมมัลลิวิตามินกว่า 33 ชนิด

❌ไม่มีส่วนผสมของนมวัว

❌ไม่มีน้ำตาล

❌ไม่มีแอลคาเนทีน

❌ไม่อ้วน


💗โดยโปรตีน Ferty 1 ซอง ให้โปรตีน 25 กรัม

ครูก้อยแนะนำให้แม่ๆ บำรุงไข่หรือเตรียมผนังมดลูกทานวันละ 2 ซอง ก็จะได้โปรตีน 50 กรัม


👉อีก 25 กรัมที่เหลือ แม่ๆ ก็สามารถเลือกทานอาหารที่ให้โปรตีนสูงให้หลากหลายเช่น งาดำ เมล็ดฟักทอง นมแพะ หรือ ถั่วต่างๆและธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง แฟล็กซีด อัลมอนด์ ลูกเดือย ซึ่งธัญพืชเหล่านี้นอกจากจะให้โปรตีนสูงแล้ว ยังมีประโยชน์ในการเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ให้ไขมันดี ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้ฮอร์โมนร่างกายสมดุล ปรับวงจรการตกไข่ให้เป็นปกติด้วยค่ะ


💗ครูก้อยแนะนำสูตรเช๊คโปรตีนบำรุงไข่

🔸️โปรตีน Ferty 1 ซอง เช๊คกับนมแพะ 1 กระป๋อง

🔸️ใส่งาดำออแกนิคคั่วเตาถ่าน 2 ช้อนชาพูนๆ

🔸️ใส่ธัญพืชบด Good Grain 2 ช้อนชาพูนๆ

🔸️เช๊คๆๆดื่มวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็นค่ะ


💗บำรุงไข่แบบนี้ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนไปเก็บไข่ แม่ๆ ก็จะมีไข่ที่อ้วนโตสมบูรณ์ พร้อมไปเก็บไข่ได้ทั้งคุณภาพดีและจำนวนมาก มีโอกาสได้ตัวอ่อนที่แข็งแรง เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ไม่เสียเงินเสียเวลาเปล่าค่ะ บำรุงดีแบบนี้ครูก้อยขอให้แม่ๆสมหวัง มีเบบี๋ในเร็ววันนะคะ


2. ทานสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง (Anti-oxidants)


Anti-oxidants หรือ สารต้านอนุมูลอิสระ

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับแม่ๆที่อยากตั้งครรภ์คือการเตรียมวัตถุดิบที่เรียกว่า "ไข่" ของแม่ๆให้สมบูรณ์พร้อมที่สุดค่ะ ไข่เป็นเซลล์หนึ่งในร่างกาย และเป็นเซลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเพราะเป็นเซลล์สืบพันธ์ ถึงแม่จะใหญ่ที่สุดแต่มีความบอบบางมากเลยล่ะค่ะ แม่ๆรู้ไหม เซลล์ไข่ ของแม่ๆจะเสื่อมลงทุกวันตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ประกอบกับเซลล์ไข่สามารถถูกทำลายจาก "อนุมูลอิสระ" (Free Radicals) ได้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงต้องทานอาหารที่มี "สารต้านอนุมูลอิสระ" (Antioxidants) สูงที่จะเข้าไปช่วยปกป้องน้องเซลล์ไข่ยังไงล่ะคะ


เอาล่ะแม่ๆสงสัยกันแล้วใช่มั้ยคะว่า เจ้าสารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร❓ มันทำงานอย่างไร❓ แล้วเราจะรับสารต้านอนุมูลอิสระได้จากการทานอาหารประภทใดบ้าง❓


💗 #สารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร ?


#สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) หมายถึงสารที่ช่วยต่อต้านหรือกำจัดอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาออกซิเดชันภายในร่างกาย ซึ่งปฏิกิริยาดังกล่าวสามารถพบได้จากหลากหลายรูปแบบตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนออกซิเดชั่นที่ทำให้เหล็กกลายเป็นสนิม น้ำมันพืชที่มีกลิ่นเหม็นหืน ผลแอปเปิลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล


👩#แต่หากเป็นในร่างกายเราจะพบได้จากกระบวนการการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน ซึ่งมาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป การรับเอามลพิษทางอาการ ควันบุหรี่ เชื้อโรค ฝุ่นละออง การรับเอารังสียูวีจากแสงแดด


😨❗️#หรือแม้กระทั่งการหายใจก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ กลายเป็นสารอนุมูลอิสระล่องลอยอยู่ภายในร่างกายและสร้างความเสียหายให้กับเซลล์ต่างๆ


👉การมีสารอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากในร่างกายจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยและโรคภัยที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับแข็ง และโรคเบาหวาน เป็นต้น


💗 #สารต้านอนุมูลอิสระทำงานอย่างไร ?


👉หน้าที่ของสารต้านอนุมูลอิสระ ก็คือการเข้ากำจัดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังทำหน้าที่ชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ทำหน้าที่คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวและอวัยวะภายใน ดังนั้นบทบาทหลักของสารต้านอนุมูลอิสระ คือทำหน้าที่ "ลดการสร้าง" อนุมูลอิสระภายในร่างกาย และ "ลดอันตราย" ที่เกิดขึ้น


🎯การเข้าไปทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ จะเข้าไปจับกับตัวรับที่สามารถยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน สารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจะทำปฏิกิริยาต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ เข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระจะตรงเข้าขัดขวางปฏิกิริยาดังกล่าว เข้าจับกับสารอนุมูลอิสระ ยับยั้งไม่ให้เกิดการทำลายเซลล์ในปฏิกิริยาออกซิเดชัน และถูกออกซิไดซ์ โดยมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นตัวรีดิวซ์


💗 #ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีต่อการปกป้องเซลล์ไข่


👉เราเห็นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระกันแล้วใช่มั้ยคะ สรุปได้ว่า มันจะเข้าไปขัดขวางการทำลายเซลล์จากอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายที่จะมาทำลายเซลล์ไข่ของแม่ๆค่ะ


👉มันยังช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ จึงช่วยลดความเสื่อมสภาพของร่างกาย ช่วยคงความอ่อนเยาว์ และมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น


👉เมื่อแม่ๆวางแผนตั้งครรภ์จึงต้องบำรุงเซลล์ไข่ให้สมบูรณ์ที่สุดเพื่อจะได้มีวัตถุดิบที่มีคุณภาพ แม่ๆก็จะมีโอกาสท้องธรรมชาติได้ค่ะ


👉 #สำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว สาเหตุหลักของการทำเด็กหลอดแก้วแล้วไม่ประสบความสำเร็จมาจากตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ (รองลงมาคือปัญหาเรื่องผนังมดลูก) ซึ่ง ตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์อาจมาจากโครโมโซมผิดปกติ สืบเนื่องมาจากเซลล์ไข่มีความเสื่อมจากอนุมูลอิสระ หรือไข่ที่ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นนั่นเอง เมื่อเกิดการรวมตัวกับ DNA แล้วทำให้โมเลกุลของ DNA เปลี่ยนไป ส่งผลให้โครโมโซมเสียหาย หรือเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ชั้น lipid ซึ่งเป็นองค์ประกอบในผนังเซลล์ทำให้เซลล์ไข่เสื่อมสภาพ (Oocyte aging)


👉นอกจากนี้อนุมูลอิสระจะสร้างความเสียหายต่อเซลล์ไข่ได้มากยิ่งขึ้นในกระบวนการ “ทำเด็กหลอดแก้ว” เนื่องจากเซลล์ไข่ที่เก็บออกมา จะไม่มีของเหลวที่เรียกว่า “ follicular fluid” ป้องกันอยู่เหมือนในร่างกายมนุษย์ ทำให้เซลล์ไข่ถูกทำลายและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นไปอีก


👉ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมเซลล์ไข่ให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด และถูกทำลายน้อยที่สุดก่อนเข้ากระบวนการทางการแพทย์ด้วยการทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ


💗 #สารต้านอนุมูลอิสระพบได้ในอาหารประเภทไหน ?


อาหารหลักๆ ที่เราสามารถพบสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก มีดังนี้


1. วิตามินซี


ในวิตามินซีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ทำหน้าที่ซ่อมแซมกระดูกอ่อน เส้นเอ็น ผนังหลอดเลือดให้มีความแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบ การติดเชื้อ และกำจัดแบคทีเรียและไวรัสไม่ให้เข้าสู่ร่างกายอีกด้วย อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น มะกรูด มะนาว ส้มเขียวหวานฝรั่ง เป็นต้น


🎯 #โดยเฉพาะมะกรูดมีวิตามินซีสูงมาก และจากงานวิจัยพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า "ไบโอฟลาโวนอยด์" สูงถึง 1,104 mg/มะกรูด 100 g


ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซีถึง 50 เท่า ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงมดลูกได้เพียงพอ

ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของเนื้อเนื่อ ลดการติดเชื้อในมดลูก ส่งผลให้ลดความเสี่ยงในการแท้งในระยะเริ่มต้น ตัวอ่อนฝังตัวได้ดี


ยิ่งไปกว่านั้นในน้ำมะกรูดยังมีสาร "เควอซิทีน" #Quercetin สูงสุดในโลก‼️เมื่อเทียบกับผลไม้เปรี้ยวชนิดอื่น ในมะกรูดมีสูงถึง 44mg/มะกรูด 100 g


👉จากงานวิจัยล่าสุดเมื่อปี 2560 พบว่า..ในการทำเด็กหลอดแก้ว ปริมาณเควอซิทีน “Quercetin” ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เปอร์เซ็นต์ความผิดปกติของเซลล์ไข่ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเลี้ยงไข่ที่ 24 ชั่วโมง จะเห็นว่า หากไม่มี “สารต้านอนุมูลอิสระ" #เควอซิทีน ไข่จะฝ่อเสียเกือบ 80% แต่ในกรณีที่มี "เควอซิทีน" เพียง 10 ไมโครโมลาร์ จะช่วยลดความเสียหายของไข่ได้เกือบครึ่งหนึ่ง #ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในความสำเร็จจนถึงระดับบลาสโตซิสต์ได้อีกเท่าตัว


👉ดังนั้นช่วงกระตุ้นไข่แม่ๆจึงควรดื่มน้ำมะกรูดเพิ่อปกป้องเซลล์ไข่ไว้ให้สมบูรณ์ที่สุดค่ะ



2. วิตามินอี


ประโยชน์จากวิตามินอีจะช่วยป้องกันความเสื่อมสภาพของเซลล์จากแสงแดดและรังสียูวี ลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าและตามผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น งาดำ เมล็ดฟักทอง ผักใบเขียว นมแพะ เป็นต้น



3. เบต้าแคโรทีน และ #ไลโคปีน

สารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ มีหน้าที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคในร่างกาย ลดความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และที่สำคัญยังมีหน้าที่กำจัดสารก่อมะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งให้น้อยลง อาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เช่น แครอท ฟักทอง แคนตาลูป มะละกอ ผักที่มีสีสันสดใส และมะเขือเทศ เป็นต้น


👉โดยเฉพาะมะเขือเทศมีสารไลโคปีนสูงมากและมีงานวิจัยรองรับในเรื่องการบำรุงสเปิร์มของคุณผู้ชาย และช่วยเพิ่มขำนวนสเปิร์มได้ถึง 70%


🎯แม่ๆเห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าสารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารที่สำคัญมาก ซึ่งเราต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอกับปริมาณของสารอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในร่างกายเรา จึงจะช่วยปกป้องเซลล์ไข่ของแม่ๆได้ และช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้ในองค์รวมค่ะ


📣ครูก้อยแนะนำอาหารเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระปกป้องเซลล์ไข่ บำรุงทุกวัน เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์


🔰#น้ำมะกรูดสูตรครูก้อย

มีสารไบโอฟลาโวนอยด์” สูง ช่วยลดการอักเสบติดเชื้อบริเวณมดลูก คุณสมบัติเด่นกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต เพิ่มออกซิเจนให้เลือด ทำให้เลือดสะอาด ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ปรับสมดุลฮอร์โมน แก้ประจำเดือนขาดหาย เยียวยา PCOS ทำให้การตกไข่สมบูรณ์ขึ้น


❤️ #ผงผักสีแดง Pure Red ประกอบด้วย มะเขือเทศ แครอท บีทรูท ทับทิม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเบต้าแคโรทีน ไลโคปีน เบทานิน เอลลาจิก ช่วยปกป้องเซลล์ไข่ ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกได้ดี บำรุงสเปิร์ม


💚 #ผงผักสีเขียว Pure Green ประกอบไปด้วยผงผักสีเขียว Super Food ได้แก่ วีทกราส สไปรูลิน่า อัลฟัลฟ่า มะรุม อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ช่วยดีท็อกซ์ระบบเลือด ลดคอเลสเตอรอส ปกป้องเซลล์ไข่ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ปกป้องเซลล์มะเร็ง




3. ต้องทานไขมันดี


แม่ๆรู้มั้ยคะร่างกายต้องการ "เจ้าไขมันดี" เพราะมันจำเป็นต่อร่างกายค่ะ โดยคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบที่จำเป็น

🔸️ใช้ในการสร้างผนังห่อหุ้มเซลล์

🔸️ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตน้ำดี

🔸️ช่วยย่อยและดูดซึมอาหาร

🔸️สังเคราะห์วิตามินดี


#และที่สำคัญที่สุดสำหรับคนวางแผนท้องไขมันดีใช้ผลิตฮอร์โมนหลายชนิดเลยรวมไปถึงฮอร์โมนเพศของแม่ๆค่ะ


📌เพราะ“ฮอร์โมนเพศสร้างจากคอเลสเตอรอลและไขมัน โดยฮอร์โมนเพศจะมีความเสี่ยงที่เกิดการต่ำได้ง่ายที่สุด เพราะว่า คอเลสเตอรอลหรือไขมันเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิด ซึ่งฮอร์โมนเพศเป็นลำดับสุดท้าย เพราะฉะนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนชนิดอื่นมากกว่า ก็จะหยุดการสร้างฮอร์โมนเพศ ‼️


👉ดังนั้นหากเราไม่ทานไขมันดีเลย ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศได้น้อย ทำให้ฮอร์โมนเพศไม่สมดุลแล้ว ฮอร์โมน สำคัญอย่างไร⁉️


👉“ฮอร์โมน คือ สารที่ร่างกายและเซลล์ใช้สื่อสารระหว่างกัน สมมติว่าเราต้องการให้ร่างกายเกิดการทำงานของเซลล์หรืออวัยวะต่าง ๆ เช่น การเผาผลาญพลังงาน หรือผลิตในเรื่องของเพศ ผลิตน้ำอสุจิ การมีประจำเดือน ก็จะใช้ฮอร์โมนในการสื่อสาร พยายามให้เกิดฟังก์ชั่น หรือระบบการทำงานต่างๆ ของอวัยวะ”


👉#หากฮอร์โมนเพศต่ำ #ฮอร์โมนไม่สมดุลก็เป็นสาเหตุของการมีบุตรยากค่ะ😰😱


📌นี่แหละค่ะ #สาเหตุที่เราต้องทานไขมันดี


ครูก้อยจะพาไปดูแหล่งอาหารที่ให้ไขมันดีกันค่ะ


🔸️ปลาที่มีกรดไขมันสูง เช่น แซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล และซาร์ดีน เป็นต้น เพราะเนื้อปลาเหล่านี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี


🔸️ธัญพืช เป็นอาหารอีกชนิดที่ช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี เนื่องจากมีกากใยสูง โดยเฉพาะกากใยชนิดละลายน้ำได้ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น ทั้งยังลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ โดยตัวอย่างอาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ เมล็ดฟักทอง งาดำ ลูกเดือย ข้าวกล้อง เป็นต้น


🔸️เมล็ดแฟล็ก อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 กากใย และสารอาหารที่มีคุณค่า สามารถนำมาผสมกับอาหารเช้าธัญพืช ข้าวโอ๊ต ขนมปังอบ โรยบนสลัด น้ำสลัด หรือโยเกิร์ต ส่วนเมล็ดแฟลกซ์ควรเลือกซื้อที่บดละเอียดแล้ว เพราะย่อยง่ายและมั่นใจได้ว่ามีประโยชน์ ในขณะที่การกินเมล็ดแฟลกซ์แบบเต็มเมล็ดอาจไม่ให้สารอาหารใด ๆ


🔸️ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง ถั่วพิตาชิโอ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น เนื่องจากอุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ มีกากใยสูง และมีสารสเตอรอลที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย กลือ


🔸️เต้าหู้และถั่วเหลือง แหล่งอาหารไขมันอิ่มตัวต่ำสำหรับทดแทนเนื้อสัตว์ การกินอาหารจากถั่วเหลืองและลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลงนั้นดีต่อสุขภาพหัวใจ ทั้งยังลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่จะได้รับจากเนื้อสัตว์ด้วย


🔸️อะโวคาโด อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว การได้รับไขมันชนิดนี้ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดคอเลสเตอรอลและอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด นอกจากนี้ อะโวคาโดยังมีกรดโฟเลตและมีกากใยอาหารสูง


🤰👌รู้อย่างนี้แม่ๆเตรียมตัวบำรุงไข่ เตรียมตัวท้องรีบไปหาอาหารที่มีไขมันดีมารับประทานกันนะคะ


📣ครูก้อยแนะนำ

🌾☘️ธัญพืชบดพร้อมชง 3 ชนิด Good Grain

ประกอบไปด้วย

🔸️ แฟล็กซีด 🔸️อัลมอนด์ 🔸️ลูกเดือย

อุดมด้วยไขมันดีโอเมก้า 3,6,9, โปรตีนสูง สารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ชงกับโปรตีน ferty 2 ช้อนพูนๆ ดื่มทุกวัน เพิ่มไขมันดี ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ


⚫️งาดำออร์แกนิคคั่วเตาถ่าน Pure Black

หอม มัน อุดมไปด้วยโปรตีน และไขมันดี แคลเซียมสูง บำรุงเลือด ทานทุกวันเช๊คกับโปรตีน ferty ครั้งละ 2 ช้อนพูนๆได้เลยค่ะ


🎃เมล็ดฟักทองออแกนิค นำเข้าจาก USA คัดเกรดเมล็ดใหญ่ Pure Seedอบ กรอบ กำลังดี

รักษาไขมันดีให้คงประโยชน์สูงสุด

🥣ทานวันละ 1 กำมือ หรือ ใส่ในซุป หรือ โรยบนสลัดผักชามโปรด




4. งดหวานเด็ดขาด


อยากท้องต้องงดหวานเด็ดขาด เพราะความหวานจากน้ำตาลเป็นตัวร้ายทำลายเซลล์ไข่ ทำให้ไข่เสื่อม ไข่แก่ก่อนวัย และเสี่ยงภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (PCOS)


📍น้ำตาลกับภาวะมีบุตรยาก


📚งานวิจัยของ "The American Society of Reproductive Medicine" (ASRM) พบว่า ผู้ที่จะเข้ากระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ที่เปลี่ยนการรับประทานอาหารเป็นแบบลดคาร์โบไฮเดรต และ เน้นโปรตีนเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะเข้ากระบวนการทำ IVF มีอัตราการเพิ่มจำนวนของบลาสโตซิสต์ (blastocyst) จาก19% เป็น 45%

📣ซึ่งจะเห็นได้ว่าการทานอาหารแบบลดน้ำตาลลงนี้ส่งผลอย่างมากต่ออัตราการตั้งครรภ์ ซึ่งผู้ที่ทานอาหารดังกล่าวมีอัตราการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 83% เลยทีเดียวค่ะ


📍ติดน้ำตาลเสี่ยงโรคเบาหวาน


นอกจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคเบาหวานตามมาได้แล้ว หากกินน้ำตาลมาก ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินด้วย ซึ่งอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล เมื่อผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นก็จะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากกว่าปกติ โดยมีงานวิจัยหนึ่งพบว่าการบริโภคน้ำตาลทุก ๆ 150 แคลอรี่ อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานสูงขึ้นถึง 1.1 เปอร์เซ็นต์

โรคเบาหวานกับการมีบุตรยากเป็นเรื่องที่แพทย์และนักวิจัยได้ศึกษาและมีผลวิจัยออกมาอย่างชัดเจนแล้ววาผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นมีระดับกลูโคสในเลือดสูง ซึ่งระดับกลูโคสในเลือดสูงนี้เป็นภัยต่อการพัฒนาของบลาสโตซิสต์ (blastocyst)


📣ครูก้อยจะพาไปดูค่ะว่าระดับของกลูโคสส่งผลต่อภาวการณ์มีบุตรยากในประเด็นใดบ้าง


➡️การมีระดับกลูโคสในเลือดสูงทำให้การหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขหรือ อะดรีนาลีนลดลง เมื่อร่างกายมีความเครียดจะมีผลให้ให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งจะส่งผลต่อการที่ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับวงจรการมีประจำเดือน เมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติส่งผลต่อการมีบุตรยากค่ะ


➡️การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุในการเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS หากเกิดภาวะดื้ออินซูลิน (insulin resistance) ขึ้นและที่ร้ายไปกว่านั้นมันสามารถทำลายเซลล์ไข่ได้เลย


➡️น้ำตาลส่งผลต่อโรคอ้วน หรือน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความเสื่อมของสเปิร์มและเซลล์ไข่ ก่อนวัยอันควร


เห็นมั้ยคะว่าน้ำตาลมีโทษอย่างมากต่อร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆโดยเฉพาะว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ควรงดหวาน ลดอสหารพวกแป้ง เน้นการรับประทานโปรตีนและผักผลไม้สดค่ะ


➡️ครูก้อยแนะนำให้ดื่มน้ำมะกรูดคั้นสด และ ชงขิงดำดื่มเป็นประจำทุกวันเพราะจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือดและทำให้เลือดไหลเวียนดีและช่วยบำรุงเซลล์ไข่ค่ะ

5. ดื่มน้ำไม่เย็น


แม่ๆ ควรดื่มให้ได้วันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 8 แก้ว (ไม่นับรวม 4 แก้วตอนตื่นนอน) คนวางแผนท้องไม่ควรดื่มน้ำเย็นนะคะเพราะจะทำให้มดลูกเย็นเราควรทำให้มดลูกอุ่นเข้าไว้เพื่อที่จะได้ติดลูกง่ายขึ้นนะคะ


การดื่มน้ำที่ถูกวิธีนั้น..ให้ทยอยดื่มระหว่างวัน 2 ชั่วโมงต่อหนึ่งแก้ว ไม่ควรดื่มบุกทีเดียวมากๆ


น้ำเป็นสารอาหารที่จำเป็นที่สุดสำหรับร่างกาย คุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว


วิธีการสังเกตว่าดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่ ให้ดูจากสีปัสสาวะ หากเป็นสีเหลืองจางๆ แสดงความคุณแม่ดื่มน้ำเพียงพอ แต่หากปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้มมาก แสดงว่าร่างกายขาดน้ำ


เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของเลือดและเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลำเลียงออกซิเจนและอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย


เริ่มที่น้ำให้ได้นะคะ ทำให้ได้นะ เพราะเป็นสิ่งที่ง่ายและราคาถูกที่สุดแล้วค่ะ




6. บำบัดมดลูกด้วยชาดอกคำฝอยและ Castor Oil Pack (แพ็คน้ำมันละหุ่ง)


มดลูกคือบ้านหลังแรก เคล็ดลับติดลูกง่ายคือต้องบำรุงมดลูกให้แข็งแรง อุ่น ใส และไม่มีประจำเดือนเก่าทับถมคั่งค้าง ครูก้อยจะดื่มชาดอกคำฝอย และ บำบัดมดลูกด้วยการทำ Castor Oil Pack หรือ การแพ็คน้ำมันละหุ่งค่ะ


📣ภารกิจเคลียร์มดลูกให้สะอาด เคล็ดลับพิ่มโอกาสติดลูกง่าย ดื่มชาดอกคำฝอยวันละ 1 แก้ว


💗ชาดอกคำฝอยมีสรรพคุณ...


✅ช่วยขับเลือดประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง

✅ล้างมดลูกที่หนา ทึบ สกปรกด้วยประจำเดือนที่ทับถม

✅มดลูกสะอาด เลือดไหลเวียนนำพาสารอาหาร

ไปเลี้ยงมดลูกได้เต็มที่

✅มดลูกอุ่น ติดลูกง่าย


การดื่มชาดอกคำฝอยเป็นขั้นตอนแรกในการเตรียมตัวเป็นคุณแม่เลยค่ะ


ครูก้อยแนะนำสำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติให้ดื่มเมื่อ 👉ปจด.มาวันแรก ชงดื่มเลย ยาวไป 7-10 วัน ติดต่อกัน ‼️#หยุดวันไข่ตก‼️

(เพราะไข่ตก คือ เรามีโอกาสท้องได้นั่นเอง คำฝอยมีฤทธิ์ขับเลือดจึงให้หยุดดื่มเลยค่ะ)


💗วิธีการชงชาดอกคำฝอย


หยิบชาดอกคำฝอย 1 กำมือ ชงในน้ำร้อน

รอให้ชาละลายได้น้ำชาสีเหลืองหอมๆ ดื่มทั้งน้ำ เคี้ยวทั้งดอกเลยนะคะ คุณค่าทางยาอยู่ที่ดอกอย่าทิ้งค่ะ เคี้ยวดอกไปเลย


💗คำแนะนำเพิ่มเติมในการดื่มชาดอกคำฝอย


✅#สำหรับคนปล่อยธรรมชาติ , IUI

เริ่มดื่มวันแรกของการมีประจำเดือน ติดต่อกันทุกวันหยุดวันไข่ตก (ดื่มติดต่อกันประมาณ 7-10 วันนับจากวันมีประจำเดือน)


✅#สำหรับคนทำ IVF,ICSI

👉#ช่วงฉีดกระตุ้นไข่ จะเป็นช่วงมีประจำเดือนให้ดื่มเพื่อล้างประจำเดือนเก่าๆ สัก 3 วัน

👉#ช่วงเตรียมผนังมดลูก เมื่อเก็บไข่เสร็จไปแล้ว รอรอบเดือนมา แล้วจึงเริ่มดื่มคำฝอยอีกครั้ง ดื่มทุกวันยาวจนไปถึงวันก่อนที่จะนัดใส่ตัวอ่อนสัก 3 วันค่ะ เพื่อเคลียร์มดลูกให้สะอาด ใส ไม่หนาทึบ!!

(‼️ใส่ตัวอ่อนแล้ว ให้หยุด ❌ห้ามดื่ม‼️)


✅#ท้องอ่อน #คนที่เพิ่งใส่ตัวอ่อน ห้ามดื่ม!!!!

ดอกคำฝอยมีฤทธิ์ขับลิ่มเลือด❗️


✅#คนหลังคลอด ดื่มได้ทุกวัน ขับน้ำคาวปลา มดลูกเข้าอู่


👉สำหรับคนที่เป็น PCOS ไข่ไม่ตกเรื้อรัง แล้วไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนขาดหายไป

ก็มักจะถามครูก้อยว่า...แล้วเราจะเริ่มดื่มชาดอกคำฝอยตอนไหน?


👉คำตอบ ก็คือ เริ่มดื่มตอนไหนก็ได้ เดือนนึงสัก 10 วันติดต่อกัน


🤰🏻ท้องแล้วห้ามดื่ม❌ เนื่องจากดอกคำฝอยนั้นมีฤทธิ์ขับลิ่มเลือดนั่นเอง


----------------------------------------------------------------------


📣 บำบัดมดลูกด้วย Castor Oil Pack


มดลูกต้องการการดีท็อกซ์และบำบัดให้พร้อมรับการฝังตัวของลูกน้อย รวมไปถึงการบำบัดระบบไหลเวียนเลือด ฟื้นฟูรังไข่และท่อนำไข่ให้อยู่ในสภาวะปกติ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ค่ะ


น้ำมันละหุ่งออแกนิค สกัดเย็นใช้สำหรับทำ Castor Oil Pack

✅เป็นการดีท็อกซ์มดลูก และรังไข่

✅เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ขับสารพิษ

✅ช่วยให้รังไข่ทำงานได้ดีขึ้น ท่อนำไข่ทำงานได้ดีขึ้น

✅มดลูกสุขภาพดีขึ้น ผนังมดลูกหนาตัวขึ้น

✅ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ก็จะช่วยให้รังไข่ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ผลิตไข่ที่มีคุณภาพขึ้น ไข่ดี ไข่สวย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

✅คุณแม่ๆ ที่ฉีดยากระตุ้นไข่หลายครั้ง ส่งผลให้ฮอร์โมนที่ใช้ในกระบวนการ สะสมอยู่บริเวณรังไข่และมดลูกซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการติดลูกยาก


🔰#อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ทำ Castor Oil Pack


✅1. น้ำมันละหุ่งออแกนิก สกัดเย็น

✅2. ผ้าคอตตอน ฟลาเนล (cotton flanel)

✅3. พลาสติกแรป

(แบบเดียวกับที่ใช้แรปอาหาร)

✅4. กล่องพลาสติก

✅5. กระเป๋าน้ำร้อน


🔰#ขั้นตอนการทำ Castor Oil Pack


1.ทำความสะอาดหน้าท้อง ใช้ทิชชูเปียก หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดบริเวณหน้าท้องให้สะอาด แล้วเช็ดหน้าท้องให้แห้ง


2.เทน้ำมันละหุ่งลงบนผ้าคอตตอนฟลาเนลที่ใส่อยู่ใส่กล่องพลาสติกให้ชุ่ม (เทให้ท่วมผ้าเลยนะคะ ให้ชุ่มๆ)


3.นอนราบลงกับพื้น แม่ๆจะนอนบนโซฟา หรือพื้นที่นอนแล้วสบาย ผ่อนคลายด้วยนะคะเพราะต้องใช้เวลาทำประมาณ 45-60 นาที

จากนั้นนำผ้าที่ชุ่มด้วยน้ำมันละหุ่งทาบลงบนบริเวณหน้าท้อง ให้คลุมพื้นที่หน้าท้องให้หมดค่ะ


4.นำพลาสติกใสปิดทับผ้าเพื่อป้องกันน้ำมันหยดค่ะ


5.วางผ้าขนหนูเก่าๆอีกหนึ่งชั้นก่อนวางกระเป๋าน้ำร้อนลงไป แต่กรณีที่ไม่ร้อนมากก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าขนหนูทับอีกชั้นก็ได้ค่ะ (ให้พอรู้สึกอุ่นสบาย ไม่ร้อนเกินไป)


6.วางกระเป๋าน้ำร้อน หรือแผ่นความร้อนไฟฟ้าบริเวณหน้าท้อง 45-60 นาที

👉ระหว่างนี้ให้ผ่อนคลาย ทำสมาธิ ฝึกลมหายใจ หรือฟังเพลง อ่านหนังสือ เพื่อเป็นการคลายความเครียด บำบัดสุขภาพจิตไปด้วยในตัวค่ะ


7.เสร็จแล้ว นำผ้าที่ใช้แล้วเก็บในกล่องพลาสติกแล้วปิดฝาให้สนิทเก็บในตู้เย็น นำกลับมาใช้ซ้ำครั้งต่อไปได้เลย ไม่ต้องซักนะคะ เพราะมันจะเหนียวเหนอะมาก เปื้อนเสื้อผ้าอื่นค่ะ ใช้ให้ครบแล้วทิ้งได้เลยค่ะ


👉ส่วนตัวน้ำมันละหุ่งไม่ต้องแช่เย็นนะคะ เก็บในที่แห้งปกติ ที่สำคัญเก็บให้พ้นมือเด็ก น้ำมันละหุ่งนี้เป็นน้ำมันละหุ่งสำหรับใช้ภายนอก ห้ามรับประทานค่ะ

👉แพ็คเสร็จแล้วแม่ๆจะเช็ดหน้าท้องให้สะอาดหรืออาบน้ำเลยก็ได้ค่ะ


🔰ทำ Caster Oil Pack ตอนไหน?


🔴 #คนท้องธรรมชาติ/IUI ฉีดเชื้อ

ทำหลังมีประจำเดือน รอให้ปจด.หมดแล้วเริ่มทำ

ทำ2-3 วันครั้ง

❌หยุดทำก่อนวันมีไข่ตก

เนื่องจากช่วงไข่ตกมีโอกาสปฏิสนธิ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ถ้าตั้งครรภ์ก็ไม่ควรนำความร้อนมาโดนหน้าท้องค่ะ


👉หลังทำอาจมีเลือดคั่งค้างออกมา ไม่ต้องตกใจ อาจเป็นเลือดประจำเดือนที่ยังค้างอยู่

ดังนั้นจึงแนะนำให้ประจำเดือนหมดก่อนแล้วค่อยทำค่ะ


🔴คนที่ทำเด็กหลอดแก้ว #เตรียมผนังมดลูกรอใส่ตัวอ่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องไข่ตก เพราะตัวอ่อนถูกเก็บไปแล้ว ดังนั้นจึงทำได้ตามปกติยาวไป ทำ 2-3 วันครั้งค่ะ แต่ให้หยุดทำก่อนใส่ตัวอ่อน 3-4 วัน

❌เมื่อใส่ตัวอ่อนแล้วห้ามทำ


🔴คนที่ทำเด็กหลอดแก้ว แล้วอยู่ในช่วงฉีดยากระตุ้นไข่

❌งดทำค่ะ

ให้ทำช่วงเตรียมผนังมดลูก หลังจากเก็บไข่แล้ว


‼️น้ำมันละหุ่งสำหรับใช้ภายนอก

❌ห้ามรับประทาน


📍ข้อสำคัญ 📍น้ำมันละหุ่งต้องใช้แบบออแกนิคและสกัดเย็นนะคะ #สำหรับใช้ภายนอก


🍃ครูก้อยคัดมาให้แล้ว ซึ่งการสกัดเอาน้ำมันออกจากเมล็ดนั้น ต้องใช้วิธีการบีบออกโดยไม่ผ่านความร้อน หรือใช้วิธีการ "สกัดเย็น" (Cold pressed) เพื่อไม่ให้โปรตีนที่เป็นพิษที่เรียกว่า Ricin ติดออกมาด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการผลักน้ำมันได้ดีที่สุด ให้ใช้ผ้า Cotton flannel แท้ ในการทำ Castor Oil Pack ค่ะ





7. ทานผักสดวันละ 1 ถ้วย


📚งานวิจัยใหม่เปิดเผยว่า ผู้หญิงที่กินผักผลไม้น้อย มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์น้อยลง และมีแนวโน้มที่จะมีภาวะมีบุตรยาก


งานวิจัยดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารการแพทย์อย่าง Human Reproduction ซึ่งทำการวิเคราะห์อาหารการกินของผู้หญิง 5,598 คน


พบว่าผู้หญิงที่กินผักผลไม้ 3 ครั้งขึ้นไป/วัน มีแนวโน้มว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์เร็วกว่าผู้หญิงที่กินผลไม้น้อยกว่า 1-3 ครั้ง/เดือน


นอกจากนั้นผู้หญิงที่กินผักผลไม้น้อยที่สุด มีความเสี่ยงที่จะเป็นภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 12% เลยทีเดียว


ดังนั้นแม่ๆ ต้องกินผักและผลไม้สดให้ได้ทุกวัน วันละ 1 ถ้วยใหญ่ๆ ผักผลไม้ที่ควรทานได้แก่ บร็อคโคลี่ แครอท มะเขือเทศ บีทรูท อโวคาโด้ เสาวรส มะนาว ทับทิม ซึ่งให้วิตามิน โฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ไข่


🍅🥕🥦สำหรับสลัดผักและผลไม้สดครูก้อยจะราดน้ำผึ้งชันโรงลงไปแทนน้ำสลัดเลยค่ะ


🐝#น้ำผึ้งชันโรงเป็นน้ำผึ้งจากเกสรดอกไม้ 100%🌺🌹🌼 เป็นน้ำผึ้งแท้สดๆจากธรรมชาติ ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์คงคุณค่าวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอยู่อย่างครบถ้วนช่วยบำรุงและปกป้องเซลล์ไข่ แถมยังให้โพรไบโอติกชั้นดีที่เกิดจากการหมักบ่มตามธรรมชาติ แตกต่างจากน้ำผึ้งเลี้ยงอุตสาหกรรมที่กินน้ำตาลและผ่านการพาสเจอไรซ์เสียคุณค่าทางอาหารและเพิ่มน้ำตาลในเลือดด้วยค่ะ


👉หากไม่ชอบทานผักหรือผลไม้ หรือไม่มีเวลาเตรียม ครูก้อยแนะนำให้ใช้ผงผัก

❤️Pure Red และ

💚Pure Green

อย่างละ 2 ช้อนชา ชงกับน้ำเปล่าขวดละ 1.5 ลิตร ดื่มน้ำให้ได้วันละ 3 ลิตรก็จะดีต่อสุขภาพค่ะ


การดื่มน้ำสำคัญมากๆ แม่ๆต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพราะน้ำจะนำพาสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เลือดสะอาด ไม่เหนียวข้น


❤️ผงผักผลไม้สีแดง Pure Red อุดมไปด้วยวิตามิน C และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานิน ไลโคปีน เบต้าแคโรทีน กรดเอลลาจิก ปกป้องพร้อมบำรุงเซลล์ให้แข็งแรง ลดความเสื่อมถอยของเซลล์

โดยผงผักสีแดงประกอบไปด้วย

🍅#มะเขือเทศ มีไลโคปีน มีงานวิจัยชี้ว่าช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์มได้ถึง 70% ทำให้เสปิร์มแข็งแรง ว่ายเร็ว ลดอัตราเสปิร์มที่ผิดปกติ

🥕#แครอท มีเบต้าแคโรทีน จัดเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ช่วยให้ไข่สวย เสปิร์มแข็งแรง เพิ่มปริมาณและคุณภาพของเสปิร์ม

💗#บีทรูท มีโฟลิกสูง แอนโธไซยานินสูง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในมดลูก เหมาะกับคนที่วางแผนจะทำ เด็กหลอดแก้ว (IVF,ICSI)

⭕️#ทับทิม มีกรดเอลาจิกสูง จัดเป็นสารแอนตี้ออกซิเเด๊นท์ระดับสูง #ช่วยให้เซลล์ไข่สวย ระบบเลือดไหลเวียนดี


💚ผงผักสีเขียว Pure Green อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ช่วยทำให้เลือดสะอาด เพิ่มออกซิเจนให้เลือด ปรับสมดุลฮอร์โมนการตกไข่ สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัสเข้าเซลล์

ผงผักสีเขียว Pure Green ประกอบไปด้วย 4 Super Food ระดับโลก ได้แก่ อัลฟัลล่า วีทกราส สไปรูลิน่า มะรุม🌿☘️🍃

4ตัวนี้รวมพลังกันประสานประโยชน์ดังนี้ค่ะ

🔸️มีคลอโรฟิลล์สูง ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้เลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี เลือดไม่เหนียวข้น

🔸️ช่วยล้างพิษ ดีท็อกซ์ระบบเลือด

🔸️ปรับสมดุลฮอร์โมนการตกไข่ ป้องกันรังไข่เสื่อม

🔸️บำรุงร่างกาย เพราะมีโปรตีนจากพืช ช่วยฟื้นฟูบำรุงเซลล์ที่เสียหาย

🔸️ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

🔸️ต่อต้านเซลล์มะเร็ง



8. ปรับสมดุลฮอร์โมน


ฮอร์โมนในร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดโดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ หากฮอร์โมนไม่สมดุล ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไข่ไม่ตก หรือตัวอ่อนไม่ฝังตัว ดังนั้นการปรับฮอร์โมนให้สมดุลจึงมีความจำเป็นอย่างมากหากแม่ๆต้องการตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และทำสมาธิ


👉นอนพักผ่อนให้เพียงพอ


มีงานวิจัยจากโรงพยาบาลไตรเซอร์วิส เจเนอรัลและศูนย์ป้องกันทางการแพทย์แห่งชาติไต้หวัน ในกรุงไทเป ได้ตรวจสอบข้อมูลสตรีในไต้หวัน 16,718 ราย ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัญหากับการนอนหลับระหว่างปี พ.ศ.2543-2553 โดยเปรียบเทียบกับสตรี 33,436 ราย ที่ไม่มีปัญหากับการนอน พบว่าสตรีที่มีภาวะผิดปกติในการนอนหลับจะมีแนวโน้มมีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง

มีปัญหาที่ปอด ไต ไทรอยด์ ประจำเดือนมาผิดปกติ เกิดภาวะซึมเศร้าความวิตกกังวล ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก


นักวิจัยเตือนว่าผู้หญิงจะต้องใส่ใจกับพฤติกรรมในการนอนหลับของตนเอง เช่น คนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรหลีกเลี่ยงการทำงานกะกลางคืน หรือใช้โทรศัพท์มือถือก่อนนอน ควรทำจิตใจให้สงบ ทำสมาธิก่อนนอนจะทำให้พักผ่อนได้เต็มที่


👉ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายใครๆก็รู้ว่าดีต่อสุขภาพ สำหรับแม่ๆที่วางแผนท้องนั้นการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพโดยรวมทั้งหมด เพราะจะทำให้หัวใจ ปอด ระบบไหลเวียนโลหิตแข็งแรง ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ทุกส่วนของร่างกายได้ดี รวมถึงมดลูก และรังไข่ด้วย ทำให้ฮอร์โมนสมดุลโดยธรรมชาติ


แม่ๆที่ร่างกายปกติ ไม่มีโรคประจำตัว สามารถออกกำลังกายตามปกติได้ เช่น แอโรบิค โยคะ เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน โดยอย่างน้อยต้องออกต่อเนื่องครั้งละ 30-45 นาที และสม่ำเสมอ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากแม่ๆคนใดมีโรคประจำตัวหรือมีข้อจำกัดทางด้านสุขภาพบางอย่างควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกายบางประเภทนะคะ


การออกกำลังกายจะช่วยรักษาระดับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป


การมีน้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ หรือน้ำหนักมากหรือน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมต่อการมีลูกได้ยากขึ้น ความสามารถในการเจริญพันธุ์ลดลง แถมยังเสี่ยงต่อการแท้งง่ายอีกด้วย


📚มีการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน ต้องใช้เวลากว่าจะตั้งท้องได้นานกว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติถึง 4 เท่า ในขณะที่ผู้หญิงที่มีน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ใช้เวลามากกว่า 2 เท่าจึงตั้งท้อง ส่วนในผู้ชายอ้วนจะมีจำนวนอสุจิลดลง 22% และมีความเข้มข้นลดลง 24%

ทำสมาธิ


👉ทำสมาธิ

ทำสมาธิก่อนนอน ครูก้อยแนะนำทำสมาธิแบบ SKT สมาธิบำบัดแบบ SKT คือการทำสมาธิที่เกิดจากการผสานศาสนศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาร่างกายให้สามารถเยียวยาตัวเองได้โดยมีหลักการสำคัญ คือ ปรับการทำงานของร่างกายทั้งระบบให้อยู่ในภาวะปกติ ชื่อ SKT มาจากชื่อของผู้คิดค้นนั่นคือ รศ. ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี อาจารย์ประจำภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แม่ๆสามารถค้นหาคลิปการทำสมาธิได้ใน Youtube และทำตามได้เลยค่ะ




9. เลี่ยงสารเคมี รังสีและเลเซอร์


ช่วงเตรียมตัววางแผนตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีทุกชนิด ทั้งครีมที่ใช้บำรุงผิว สารเคมีจากน้ำยาต่างๆ รวมไปถึงการทำโบท็อกหรือเลเซอร์ เพราะอาจส่งผลต่อความสมบูรณ์ของเซลล์ไข่ หรือ ขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนได้


👉หลีกเลี่ยงการใช้ยารักษาสิวฝ้าหรือการใช้เครื่องสำอางที่มีกรดวิตามินเอ หรือสารสเตียรอยด์ รวมถึงงดสัมผัสสารเคมีทุกชนิด


👉ช่วงวางแผนตั้งครรภ์ครูก้อยแนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่ออแกนิกจากธรรมชาติ


💓ครูก้อยแนะนำเซรั่มบำรุงผิว และ ครีมกันแดดออแกนิกจากธรรมชาติ 100% “is LOVE” เป็นสกินแคร์ที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนวางแผนท้อง เตรียมกระตุ้นไข่ ใส่ตัวอ่อน ใช้ได้อย่างปลอดภัยค่ะ




🔴ชม Live 9 ทริคไข่สวย มดลูกพร้อม ฮอร์โมนดี มีลูกง่าย👇👇👇👇 (คลิกชมเลยค่ะ)

https://youtu.be/zXL1CZ2Di4A






ดู 869 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page