ครูก้อย Baby and Mom เชื่อว่าในวงการผู้เชี่ยวชาญการมีบุตรยาก คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ ครูก้อย
นัชชา ลอยชูศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญสาวที่มีดีกรีเป็นถึงครูวิทยาศาสตร์ และเคยมีประสบการณ์ทำเด็กหลอดแก้วสำเร็จมาแล้ว ซึ่งจากที่กล่าวมา เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเธอผู้นี้เท่านั้น ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับครูก้อยให้มากขึ้นค่ะ
ครูก้อย Baby and Mom คือใคร ทำไมผู้มีบุตรยากต้องรู้จัก
จากที่กล่าวไปข้างต้นค่ะว่า นอกจากครูก้อยจะเคยมีประสบการณ์ทำเด็กหลอดแก้วสำเร็จ หลังจากเตรียมความพร้อมบำรุงร่างกายมาเป็นอย่างดีก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ จากการศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวบรวมเป็น “คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน” โดยนำความรู้มาสรุปให้เข้าใจง่ายเพื่อผู้มีบุตรยากได้นำไปปฏิบัติตามแบบไม่หลงทางเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์ให้กับบรรดาคู่รักที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตรอีกด้วย
ประวัติครูก้อย
คุณแม่หัวใจนักวิทยาศาสตร์ "จากอาชีพครูสายวิทย์ฯ สู่ที่ปรึกษาผู้มีบุตรยาก" “ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์” มีดีกรีเป็นถึงคุณครูวิทยาศาสตร์ โดย “ครูก้อย” เป็นนักเรียนทุนของ สสวท. โครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ได้เป็นลำดับ top 10 ของประเทศ และเป็นนักเรียนทุนโดยไม่ผ่านการเอนทรานซ์
จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาฟิสิกส์ สาขา ชีวฟิสิกส์ (Bio-Physics)
จากนั้นก็ศึกษาต่อในระดับปีที่ 5 คณะศึกษาศาสตร์ ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูที่ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรอีก 1 ปี และฝึกสอนที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน
จบปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
โดยตลอดระยะเวลาที่ “ครูก้อย” เรียนในระดับมหาวิทยาลัย ได้รับทุนถึง 8 ปี มีโอกาสทำงานวิจัย และเดินทางไปศึกษางานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ
เป็นครูสอนฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์ ในโครงการ SMGP ( Science math gifted program) โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โรงเรียนประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึง 8 ปี
ตลอดระยะเวลาที่ “ครูก้อย” เรียนในระดับมหาวิทยาลัย ได้รับทุนถึง 8 ปี มีโอกาสทำงานวิจัย และเดินทางไปศึกษางานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ “ครูก้อย” ถือว่าเป็นเด็กเรียนดี ผลการเรียนโดดเด่น ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้เกรดเฉลี่ย 4.00 มาโดยตลอด และเด่นในด้านวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจน ส่วนตอนมัธยมปลายเรียนแผน วิทย์ - คณิต จบ ม.6 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.85
แรงบันดาลใจในการเป็นครู
“ครูก้อย” เลือกที่จะเป็นครู เพราะมีคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ ท่านทั้ง 2 เป็นคุณครูทั้งคู่ และอยากสอนนักเรียนให้เข้าใจวิทยาศาสตร์ และฟิสิกส์แบบง่ายๆ เพราะเด็กหลายคนที่มองว่าฟิสิกส์ยาก เลยสอบทุน สควค. (โครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์) และ สอบชิงทุน สควค. ได้เป็นลำดับ top 10 ของประเทศ ได้เป็นนักเรียนทุนโดยไม่ผ่านการเอนทรานซ์ เรียกได้ว่า “ครูก้อย” มีใจรักในการเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ ตั้งแต่เล็กจนโต
ความสามารถและความเก่งของ “ครูก้อย” ทำให้ในปี 2559 “ครูก้อย” สามารถคว้ารางวัลจากโครงการเด็กไทยดรีมทีมในปฏิบัติการค้นหาพิธีกรครูไทยจากทั่วประเทศได้สำเร็จ และได้ก้าวสู่การเป็นพิธีกรหน้าใหม่รายการเด็กไทยดรีมทีม ทางช่องอมรินทร์ 34 คู่กับโบ- ธนากร ชินกูล พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง
จุดเริ่มต้นของการเป็น "ครูก้อย แฟนเจมส์ เรืองศักดิ์"
จุดเริ่มต้นของความรักระหว่างทั้งสองท่าน คือ “ครูก้อย” เป็นแฟนคลับตัวจริง ที่คอยติดตามผลงานของ “เจมส์” มากว่า 17 ปี มีรูปโปสเตอร์ขนาดใหญ่ติดที่ผนังในห้องนอน แต่ไม่เคยมีโอกาสไปดูคอนเสิร์ต หรือเจอตัวจริงเลย ด้วยความที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการเรียน เพราะนักเรียนทุนมีการบังคับเกรด และในที่สุดก็เกิดพรหมลิขิตที่ทำให้ “ครูก้อย” ได้พบกับ “เจมส์” โดยบังเอิญ ที่ล็อบบี้โรงแรมทวินโลตัส ในตัวจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งครูก้อยจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ชั้น 3 ของโรงแรมเป็นประจำหลังเลิกงาน และ บังเอิญวันนั้น เจมส์ ได้เดินทางมาทำงาน และเข้าพักที่นั่นพอดี โดย ครูก้อย ได้เข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับศิลปินในดวงใจ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้พบรักกันเรียกว่าจีบกันข้ามจังหวัด
จนสุดท้ายได้มาคบหาดูใจและตัดสินใจแต่งงานมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันที่กรุงเทพ แม้ตอนนี้ “ครูก้อย” จะตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูฟิสิกส์ อาชีพที่ตัวเองรัก เพราะต้องออกมาทำหน้าที่เป็นภรรยาและคุณแม่ที่ดีให้กับครอบครัว “ลอยชูศักดิ์” ที่กรุงเทพ แต่ “ครูก้อย” ก็ไม่ทิ้งประสบการณ์ความรู้ และการถ่ายทอดความรู้จากการเป็นครูวิทยาศาสตร์
จากการสร้างครอบครัว จนกลายมาเป็น "ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตร"
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ครูก้อยทุ่มเททั้งชีวิตอยู่กับการสืบค้นความรู้เกี่ยวกับการมีลูก “ครูก้อย” ได้ต่อยอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการรวบรวมหาข้อมูลวิเคราะห์ถึงปัญหาการมีบุตรยากของคนที่อยากจะเป็นคุณแม่ โดย “ครูก้อย” ได้นำเรื่องราวในชีวิตจริงของตัวเอง ถ่ายทอดพร้อมองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เปิดเผยเส้นทางมีลูกยากจากชีวิตจริงเป็นกรณีศึกษา เพื่อเป็นวิทยาทานแก่แม่ๆ ท่านอื่นๆ อย่างหมดเปลือก
เริ่มต้นเมื่อตอนอายุ 34 ปี ที่เริ่มปล่อยมีลูกแบบธรรมชาติ และได้แท้งไปในท้องแรกด้วยอายุครรภ์ เกือบ 3 เดือนตอนนั้น “ครูก้อย” รู้สึกเสียใจมาก หลังจากผิดหวังครั้งนั้นจึงหันมาปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมตัวมีลูก เริ่มด้วยการกินยากระตุ้นไข่แล้วบังคับให้ไข่ตก ทำ IUI ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกก็ไม่ประสบความสำเร็จ
จึงเข้าสู่กระบวนการทำ ICSI และคัดโครโมโซม แต่กว่าจะถึงวันนี้ได้ มันไม่ได้ง่ายเลย “ครูก้อย” ผ่านภาวะ OHSS ในการกระตุ้นไข่รอบแรก จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ต้องระงับการให้ยาฉีดกระตุ้น เนื่องจากเกิดภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป จนมีไข่เติบโตมากเกิน 20 ใบ ทำให้ท้องอืดตาพร่าเวียนหัว หายใจไม่ออก มีน้ำอยู่ในช่องท้อง แพทย์จึงลดโดสยาและระงับการฉีดยากระตุ้นไข่ในรอบนั้น ทำให้ไข่ของ “ครูก้อย” 20 ใบ เสียหายหมด กลายเป็นไข่ที่ไม่มีนิวเคลียส (ภาวะ Empty Follcle Syndrome) ซึ่งพบได้ในผู้หญิงเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่เข้ารับการทำเด็กหลอดแก้ว “ครูก้อย” เหลือไข่เพียงแค่ 3 ใบเท่านั้นที่มีนิวเคลียส แต่เมื่อปฏิสนธิ ก็ได้เป็นตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ 2 ตัว ใส่ตัวอ่อนรอบแรกไปก็ไม่ติด แต่ “ครูก้อย” ก็ไม่ท้อแท้ พักร่างกาย 6 เดือน ด้วยความที่ “ครูก้อย” เองเป็นคุณแม่สายวิทย์ฯ คือ เรียนสายวิทยาศาสตร์มา แม้จะเป็นครูสอนฟิสิกส์แต่ครูก้อยจบสาขา Bio-Physics จึงมีความรู้ด้านชีววิทยาด้วย พอรู้ว่าตัวเองมีปัญหา PCOS ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
จึงนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่มี และศึกษางานวิจัยผู้มีบุตรยากจากทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติมควบคู่กับปรึกษาแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย บำรุงอาหารการกิน บำรุงไข่ เตรียมผนังมดลูก ทานอาหารที่ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ด้วยสมุนไพรและอาหารเสริมที่มีสารอาหารโปรตีนสูง และวิตามินสำคัญสำหรับเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ เพื่อให้ได้ไข่ที่สวยและสมบูรณ์ที่สุด ก่อนเข้าสู่กระบวนการ ICSI รอบ 2 รอบนี้เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ทุกอย่างดีงามตามเกณฑ์ ได้เป็นคุณแม่ มี “น้องเมดา” มาเติมเต็มในชีวิตสมใจ แต่เมื่อตั้งครรภ์ไปแล้ว 4 เดือนก็ต้องเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเย็บปากมดลูก เนื่องจากตัว “ครูก้อย” นั้นมีภาวะคอมดลูกสั้นกว่าปกตินิดหน่อย คอมดลูกต้องไม่สั้นกว่า 3 ซม. ของ “ครูก้อย” 2.82 ซม. คุณหมอเกรงจะคลอดก่อนกำหนด จึงเย็บปากมดลูกป้องกันเอาไว้ และได้ผ่าคลอดน้องเมดาอย่างปลอดภัย เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2562 ด้วยน้ำหนักแรกคลอด 3601 กรัม ถือว่าเป็นเด็กที่สมบูรณ์มาก เพราะคุณแม่บำรุงดูแลมาอย่างดี
ผลงานปัจจุบัน กับ การเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้มีบุตรยาก
“ครูก้อย” ได้สร้างเพจ https://www.facebook.com/BabyAndMom.co.th/ ขึ้นมาเพราะตัวเองเป็นคนที่มีลูกยากและพยายามศึกษาหาหนทางทุกอย่างที่จะมีลูก เริ่มตั้งแต่วิธีกระบวนการทางธรรมชาติจนกระทั่งอาศัยวิธีเทคนิคทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ ผ่านมาแล้วทุกขั้นตอนตั้งแต่
1. กินยากระตุ้นไข่แล้วบังคับให้ไข่ตก
2. IUI ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก
3. เด็กหลอดแก้ว
4. ทำเด็กหลอดแก้ว ( ICSI + คัดโครโมโซม)
และ “ครูก้อย” เองก็ได้แชร์ข้อมูลที่เกี่ยวกับดูแลตัวเอง การเตรียมความพร้อมของผู้มีบุตรยาก ก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทยตั้งแต่ก่อนท้อง“น้องเมดา”ไว้ในเพจ https://www.facebook.com/BabyAndMom.co.th/ ปัจจุบันมีบรรดาแม่ๆที่มีปัญหาเรื่องมีบุตรยากมาติดตามครูก้อย และ แอดไลน์เข้ามาปรึกษาครูก้อยทาง ไลน์เยอะมาก จนครูก้อยกลายเป็นที่ปรึกษาสำหรับผู้มีบุตรยากและยืนหนึ่งในใจของผู้มีบุตรยากไปแล้ว และมีหลายครอบครัวที่ประสบปัญหาการมีลูกยาก และหันมาเตรียมตัว บำรุงไข่ บำรุงมดลูก ปรับสมดุลฮอร์โมน ก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ โดย “ทานตามคัมภีร์ครูก้อย” ประสบความสำเร็จมีลูกน้อยสมใจตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งในแต่ละวัน มีแม่ๆอินบ็อกซ์ มาบอกว่า..ท้องแล้วเยอะมากเพราะทำตามสูตรและเทคนิคที่ครูก้อยแนะนำ ครูก้อยดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยแม่ๆ ที่มีบุตรยากได้สมหวัง เพราะครูก้อยรู้ดีว่า... “ไม่มีใครเข้าใจผู้มีบุตรยาก หากไม่ได้ยืนอยู่ในฐานะผู้มีบุตรยากเหมือนกัน แม้จะเป็น 1 % , 5% หรือ 10% แต่สำหรับคนมีบุตรยาก ทุกๆ เปอร์เซ็นต์มีความหมาย”
หากใครที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตรยากสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลและกดติดตามข้อมูลอัปเดทและเคล็ดลับดีๆสำหรับผู้มีบุตรยากได้ที่เพจ https://www.facebook.com/BabyAndMom.co.th/
หรือแอดไลน์เข้ามาปรึกษาครูก้อยทาง ไลน์แอด :@babyandmom.co.th
Comments