DNA ในอสุจิแตกหัก
สาเหตุท้องยาก
คู่สมรสที่วางแผนท้องหลายคู่อาจจะรู้จักการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ (Semen Analysis) ซึ่งเป็นการตรวจประเมินคุณภาพของอสุจิเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย โดยจะเป็นการตรวจเพื่อวิเคราะห์คุณภาพของอสุจิจากปัจจัย 4 ประการได้แก่
1.ปริมาตรของน้ำอสุจิในการหลั่ง
2.ความหนาแน่นของตัวอสุจิ
3.อัตราการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ
4.รูปร่างของตัวอสุจิ
แต่การตรวจดังกล่าวไม่สามารถบอกถึงการทำงานของอสุจิ หรือใช้ในการทำนายความสำเร็จในการทำเทคโนโลยีเพื่อการเจริญพันธุ์ได้ทั้งหมดนะคะ
เพราะการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิไม่สามารถบอกระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นภายใน DNA ของอสุจิ หรือที่เรียกว่า DNA อสุจิแตกหัก (DNA Fragmentation)
ได้ ซึ่งปัญหานี้ส่งผลให้อัตราการปฏิสนธิต่ำ ส่งผลต่อการท้องยากนั่นเองค่ะ
วันนี้ครูก้อยสืบค้นข้อมูลเรื่องนี้มาฝากกัน เราไปดูกันว่า DNA ในอสุจิคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และสามารถตรวจหาความไม่สมบูรณ์และรักษาได้หรือไม่
ไปศึกษาพร้อมกันเลยค่ะ
#DNA ในอสุจิสำคัญอย่างไร?
DNA (Deoxyribonucleic acid) คือสารประกอบอินทรีย์โมเลกุลขนาดใหญ่ ที่บรรจุข้อมูลทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นหาก DNA มีการแตกหักหรือเสียหาย จะส่งผลให้เซลล์มีการทำงานที่ผิดปกติ เมื่อมีการแบ่งเซลล์ ลักษณะที่ผิดปกตินี้จะถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนเกิดการกลายพันธุ์
อสุจิเป็นเซลล์สืบพันธุ์เพศชายที่มีหน้าที่ในการปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ และถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมสู่รุ่นลูก ดังนั้นระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นใน DNA ของอสุจิ (Sperm DNA damage) จะส่งผลดังนี้
1. ทำให้อัตราการปฎิสนธิลดลง
2. อัตราการฝังตัวของตัวอ่อนลดลง
3. มีอัตราการแท้งสูงขึ้น
#DNA ในอสุจิแตกหักได้อย่างไร?
สาเหตุที่ทำให้ DNA ในอสุจิแตกหัก (Sperm DNA Fragmentation) มีหลายประการด้วยกัน เช่น การเกิดภาวะเครียดออกซิเดชั่น (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นภาวะที่อสุจิมีสารอนุมูลอิสระมากเกินไป นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปร่างและการทำงานของอสุจิ จนเกิดการแตกหักของ DNA ในที่สุด
นอกจากนี้อายุที่เพิ่มขึ้น การสูบบุหรี่ และมลพิษในสิ่งแวดล้อม ก็สามารถทำให้ DNA เกิดความเสียหายและแตกหักได้
#ใครบ้างควรตรวจ Sperm DNA Fragmentation?
ผู้ชายที่ตรงกับเงื่อนไขต่อไปนี้ และอยากมีบุตร ควรเข้ารับการตรวจ
1. มีอายุมากกว่า 40 ปี
2. มีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุมานานกว่า 6 เดือน
3. ชอบใส่ชุดที่รัดแน่น
4. เคยมีประวัติเป็นมะเร็งหรือมีการรักษาด้วยการฉายรังสี หรือเคมีบำบัด
5. มีประวัติสัมผัสสารเคมีหรือสารที่มีพิษ
6. เคยติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์
7. มีการรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น สูบบุหรี่ ทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ หรือมีภาวะน้ำหนักเกิน
8. คู่สมรสมีประวัติการแท้งหลายครั้ง
#DNA ในอสุจิแตกหัก ยังตั้งครรภ์ได้หรือไม่?
หากพบว่าฝ่ายชายมีปัญหานี้ การตั้งครรภ์โดยวิธีธรรมชาติคงเป็นไปได้ยากค่ะ เพราะถึงแม้อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่แต่เป็นตัวที่ DNA แตกหักอัตราการปฏิสนธิก็ลดลง หรือมีโอกาสเสี่ยงแท้งสูง อย่างไรก็ตามสามารถใช้วิธีการทางการแพทย์ช่วยได้ โดยวิธีการที่แพทย์อาจแนะนำในกรณีนี้ คือ "การคัดอสุจิด้วยวิธีอิมซี่ (IMSI)
IMSI (Intracytoplasmic Morphologically Selected Sperm Injection)
"อิมซี่" เป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการคัดเลือกอสุจิด้วยกล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงตั้งแต่ 6,000 – 12,000 เท่า เพื่อให้ได้อสุจิที่มีลักษณะดี และเหมาะสมที่สุดมาทำการผสมกับเซลล์ไข่ต่อไป
ช่วยเพิ่มความสำเร็จการทำเด็กหลอดแก้วสูงขึ้น เทคนิค IMSI นี้ จะช่วยให้สามารถมองเห็นรูปร่างลักษณะของอสุจิได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสามารถมองเห็น vacuole ที่หัวของอสุจิได้ ซึ่งการพบ vacuole ที่หัวของอสุจินั้นเป็นลักษณะที่บ่งชี้ว่า อสุจิตัวดังกล่าวอาจมีชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมที่แตกหัก (DNA fragmentation) การนำอสุจิลักษณะนี้ผสมเข้าไปในเซลล์ไข่ จะส่งผลทำให้ตัวอ่อนที่ผสมได้ไม่สมบูรณ์ และอาจทำให้ไม่เกิดการฝังตัวในโพรงมดลูก หรือฝังตัวแล้วเกิดการแท้งได้
ซึ่งแตกต่างกับการทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ที่ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายเพียง 200-400 เท่า เท่านั้น จึงจะไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดบริเวณส่วนหัวของอสุจิได้ดีนักเมื่อเทียบ
กับการทำ IMSI ดังนั้นการใช้วิธีการ IMSI จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยคู่สมรสที่มีบุตรยากซึ่งปัญหาเกิดจากฝ่ายชายที่มีอสุจิไม่สมบูรณ์ได้ค่ะ
.
.
หัวใจสำคัญที่สุดก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ คือ คุณผู้ชายต้องเตรียมตัวบำรุงสเปิร์มไปให้ ดีที่สุด ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน งดของมัน ของทอด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ งดเหล้า งดบุหรี่ สเปิร์มก็จะมีคุณภาพค่ะ อาจมีโอกาสท้องธรรมชาติ หรือ เป็นการเพิ่มโอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วค่ะ
Comments