นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายด้วยการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอและการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว การเลือกรับประทานอาหารถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิงได้ดีอีกด้วย แล้วยิ่งถ้าสาว ๆ คนไหนอยากมีลูกด้วยแล้วล่ะก็ การเลือกอาหารที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกให้มากขึ้นด้วย และวันนี้ครูก้อยจะมาแนะนำอาหารที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนสำหรับคุณแม่อยากท้องโดยเฉพาะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง มาอ่านไปด้วยกันเลยค่ะ
หลักการทานอาหารปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง
1. เน้นโปรตีนจากพืช
ครูก้อยขอแนะนำให้เน้นทานโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารที่มีผลต่อฮอร์โมนที่ช่วยในการควบคุมความอยากอาหาร จากงานวิจัยพบว่าการรับประทานโปรตีนช่วยลดความอยากอาหาร ส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญภายในร่างกาย อีกทั้งสมดุลฮอร์โมนโดยรวมด้วย
สำหรับแม่ ๆ ที่กำลังวางแผนท้อง ครูก้อยอยากให้เน้นไปที่การทานโปรตีนจากพืชซึ่งจะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ จากการศึกษาพบว่าถั่วเหลืองมีสารไฟโตเอสโตรเจนชื่อ "ไอโซฟลาโวน" (Isoflavone) ในปริมาณสูง โดยสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงช่วยชะลอวัยทองก่อนวัย นอกจากนี้ธัญพืชอย่าง แฟล็กซีด (Flaxseed) ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่มีไฟโตเอสโตรเจนประเภทลิกแนนที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงทำให้รังไข่ทำงานได้เป็นปกติ
2. ทาน Fiber ให้มากขึ้น
การทาน Fiber ในมื้ออาหารให้เพียงพอในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ได้จากการรับประทานผักผลไม้ และธัญพืชที่ให้ไฟเบอร์สูงแถมยังมีวิตามินหลายอย่าง ควินัว งาดำ แฟล็กซีด ลูกเดือย เมล็ดฟักทอง เป็นต้น และลดการทาน Fat ลง จะช่วยใหฮอร์โมนอยู่ในเกณฑ์ปกติ อีกทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนไม่สมดุลได้ดีเลยค่ะ
3. ลดคาร์บ งดหวาน
ต้องเข้าใจก่อนนะคะว่า เมื่อเราทานคาร์บเข้าไปในร่างกายแล้วร่างกายจะเปลี่ยนแป้งให้กลายเป็นน้ำตาล ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน ซึ่งโรคเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อการตั้งครรภ์ที่ยากขึ้น
นอกจากนี้ยังควรงดน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะน้ำตาลมีฤทธิ์ทำลายเซลล์ ก่อให้เกิดอาการอักเสบต่าง ๆ หากร่างกายได้รับน้ำตาลเข้าไป ย่อมส่งผลต่อให้ระดับกลูโคสในเลือดสูงอย่างเฉียบพลัน หรืออาจเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายอักเสบ ฮอร์โมนผิดเพี้ยนและผลิตฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป กลายเป็นโรคอ้วน เบาหวานตามมา
แต่หากสาว ๆ คนไหนยังคงติดรสหวานอยู่ ครูก้อยขอแนะนำให้ทานผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด ได้แก่ แอปเปิ้ล กีวี ฝรั่ง และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมถึงน้ำอินทผลัมที่ให้รสหวาน แต่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) ซึ่งถือว่าเป็นความหวานในระดับที่ปลอดภัย
ทางที่ดีครูก้อยขอแนะนำให้เลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex Carb) หรือคาร์โบไฮเดรตไเม่ขัดสี จะดีกว่าค่ะ พราะคาร์บประเภทนี้จะทำให้ร่างกายใช้เวลาย่อยนานกว่าพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว หรือคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี (Refined Carb) ไม่ว่าจะเป็น แป้ง น้ำตาล ข้าวขาว เบเกอรี่ เมื่อร่างกายใช้เวลาย่อยนานกว่า ส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานนานกว่า จึงไม่รู้สึกหิวโหย อีกทั้งให้ไฟเบอร์สูงและไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว (Glucose) อีกด้วย
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเพศหญิงด้วยนะคะ พอฮอร์โมนไม่สมดุล รังไข่เสื่อม ตามมาด้วยภาวะ PCOS (ไข่ไม่ตกเรื้อรัง) อีกด้วย ทางที่ดีถ้าคุณอยากเพิ่มอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย ก็ควรงดทานของหวานไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง นมเปรี้ยว ฯลฯ
อาหารปรับสมดุลฮอร์โมนเพศที่สาว ๆ ควรทาน
1.ถั่วเหลือง
มีสารไอโซฟลาโวน เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี อีกทั้งอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโปรตีนสูงเทียบเท่าเนื้อสัตว์อีกด้วย
2.เมล็ดแฟลกซ์ (flaxseed)
อุดมไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนที่นอกจากจะช่วยเติมเต็มฮอร์โมนเพศหญิงให้แก่สาว ๆ แล้ว ยังช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการทำงานของระบบย่อยอาหาร อีกทั้งช่วยลดระดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย
3.งาดำ
อุดมไปด้วยโฟโตเอสโตรเจนสูงในรูปสารลิกแนน ซึ่งเป็นโฟโตเอสโตเจนชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีปริมาณไฟเบอร์และแร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะธาตุเหล็ก แมกนีเซียมและแคลเซียมสูงอีกด้วย
4.น้ำผึ้งชันโรง
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ยังติดใจในรสหวาน ครูก้อยขอแนะนำให้ทานความหวานจาก "น้ำผึ้งชันโรง" เพราะน้ำผึ้งชันโรงเป็นน้ำผึ้งจากเกสรดอกไม้ 100% ความพิเศษของน้ำผึ้งชนิดนี้อยู่ที่คุณประโยชน์จากน้ำผึ้ง เนื่องจากไม่ใช้น้ำผึ้งจากผึ้งเลี้ยง จึงเป็น super food ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและลดไขมันเลวได้ดี อีกทั้งให้ความหวานแบบ Low GI จึงไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
5.ผักสีเขียว
ได้แก่ ผักคะน้า บร็อคโคลี่ ผักโขม วีทกราส อัลฟัลฟ่า ฯลฯ โดยผักเหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามิน C โฟเลต และแมกนีเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการทำงานของรังไข่ นอกจากนี้ยังมีคลอโรฟิลล์สูงช่วยดีท็อกซ์ระบบเลือดให้ไหลเวียนปกติ เพิ่มออกซิเจนให้เลือด และนำพาสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะรังไข่ให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย
6.ผักผลไม้สีแดง
ได้แก่ มะเขือเทศ บีทรูท แครอท เพราะนอกจากจะมีสารไลโคปีนสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่งสดใสขึ้นแล้ว ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุโครเมี่ยมที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำงานร่วมกับอินซูลินในกระบวนการเผาผลาญน้ำตาล ช่วยนำโปรตีนไปยังส่วนต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการใช้ต่อวันซึ่งผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุมักจะขาดแร่ธาตุนี้อีกด้วย
7.เมล็ดฟักทอง
อุดมไปด้วยวิตามิน B6 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีน ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อีกทั้งมีกรดไขมันดีที่ช่วยเสริมการสร้างฮอร์โมนเพศ และที่สำคัญยังมีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) ที่จำเป็นต่อระบบการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง ช่วยบำรุงรังไข่ให้สมบูรณ์พร้อมต่อการปฏิสนธิ
8.น้ำมะกรูด
อุดมไปด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์สูง ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงได้ดี ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงรังไข่เพียงพอ ส่งผลให้รังไข่ทำงานผลิตไข่ได้เป็นปกติ และช่วยให้รังไข่ผลิตไข่ที่มีคุณภาพมากขึ้น โอกาสท้องก็มากขึ้นด้วยค่ะ
นอกจากนี้หากสาว ๆ ดื่มเป็นประจำแล้ว จะช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่องสดใส นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณโดดเด่นในด้านการฟอกเลือดด้วย ซึ่งจะช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ส่งผลต่อรอบไข่ตกที่เป็นปกติขึ้น อีกทั้งช่วยให้มีเลือดไปเลี้ยงมดลูกเพียงพอ มดลูกจึงแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่อักเสบติดเชื้อ
ศึกษาสรรพคุณน้ำมะกรูด SHOT by ครูก้อย “สูตรผู้มีบุตรยาก” บำรุงไข่ เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
(คลิกอ่านเลยค่ะ)
ศึกษาสรรพคุณน้ำมะกรูดครูก้อย 70% ผสมน้ำผึ้งชันโรง “สูตรเตรียมตั้งครรภ์”
(คลิกอ่านเลยค่ะ)
コメント