ผลตัวอ่อน Day1 หลังย้ายเข้ามดลูก ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับครูก้อยมากค่ะ และเชื่อเหลือเกินกว่าคุณแม่หลายๆ คนก็คงคิดเช่นเดียวกัน โดยในบทความนี้จะเป็นประสบการณ์หลังการย้ายตัวอ่อนของครูก้อยในวันแรกที่อยากมาแชร์ให้เหล่าคุณแม่มือใหม่ได้อ่านกันค่ะ
"ผลตัวอ่อน Day1" มาดูกัน หลังย้ายตัวอ่อนเข้ามดลูก มีพัฒนาการณ์อย่างไรบ้าง จากประสบการณ์ของ ครูก้อย
แม่ๆที่ทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) อาจรู้จักกับตัวอ่อนระยะต่างๆจากที่คุณหมอแจ้ง และอาจพอทราบว่าตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ หรือ Day5 เป็นตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุดที่เหมาะสมในการใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าแม่ๆที่ทำเด็กหลอดแก้วต้องใส่ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์เท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จ เพราะการตั้งครรภ์ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วย ทั้งเรื่องความแข็งแรงของผนังมดลูก โครโมโซมของตัวอ่อน และสุขภาพของแม่ เป็นต้น
ตัวอ่อนบลาสโตซิสต์ มีกี่ระยะ อะไรบ้าง?
อย่างไรก็ตามวันนี้ครูก้อยจะพาไปทำความรู้จักกับตัวอ่อนบลาสโตซิสต์ ซึ่งการประเมินบลาสโตซิสต์จะขึ้นอยู่กับ expansion state (รูปร่างของเซลล์ของตัวอ่อน) ซึ่งมี 6 ระยะ ดังนี้ค่ะ
1. Early Blastocyst
จะมีบลาสโทซีล (Blastocoel) น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาตรตัวอ่อน (ในระยะ Blastocyst จะมีการเคลื่อนที่ของเซลล์เพื่อให้ได้ช่องว่างในตัวอ่อน เรียกช่องว่างนี้ว่า Blastocoel)
2. Blastocyst
จะมีบลาสโทซีลมากกว่าครึ่งหนึ่งของขนาดตัวอ่อน
3. Full Blastocyst
มีบลาสโทซีลเจริญเต็มที่อยู่ในตัวอ่อน และขนาดตัวอ่อนเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
4. Expanded Blastocyst
ปริมาตรของบลาสโทซีลมีขนาดใหญ่กว่า 3 ระยะแรกของตัวอ่อน เปลือกไข่ หรือ Zona pellucida จะ
บางลงครึ่งหนึ่ง รวมทั้งขนาดตัวอ่อนจะขยายขนาดใหญ่ขึ้น
5. Hatching Blastocyst
ส่วนที่จะเติบโตไปเป็นรกหรือ Trophectoderm เริ่มโผล่ออกมาจากเปลือกแล้ว
6. Hatched Blastocyst
ตัวอ่อนฟักตัวหลุดออกมาจากเปลือกแล้ว
จาก 6 ระยะนี้จะเห็นว่าระยะที่ 6 เหมาะสมในการย้าย และเป็นตัวอ่อนเกรดที่ดีเพราะตัวอ่อนฟักออกจากเปลือกพร้อมฝังตัวนั่นเอง
นอกจากนี้การประเมินเกรดตัวอ่อนยังต้องพิจารณา Inner Cell Mass (เซลล์ที่จะเจริญเติบตัวไปเป็นตัวอ่อน) และ Trophectoderm (เซลล์ที่จะเจริญเติบโตไปเป็นรก) ประกอบด้วยค่ะ
การปฏิบัติตัวหลังการใส่ตัวอ่อน
1. นอนพักหลังการใส่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นสามารถเดิน ทางกลับบ้านได้
2. สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ (การขึ้นเครื่องไม่มีผลเสีย)
3. งดเพศสัมพันธ์และไม่สวนล้างช่องคลอด
4. สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ระบุว่าการจำกัดกิจกรรมจะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ นอนพักนิ่งๆไม่ช่วยเพิ่มโอกาสการฝังตัวของตัวอ่อน
5. งดการออกกำลังกายหนักๆ เช่น ปีนเขา วิ่งมาราธอน เทนนิส เป็นต้น
6. ไม่รับประทานยานอกเหนือจากที่แพทย์กำหนด หรือปรึกษาแพทย์ ก่อนรับประทานยานั้นๆ
อย่างไรก็ดีค่ะ ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชิ้นใดระบุถึงอาหารหรือการปฏิบัติตัว ที่จะมีผลสำเร็จต่อการตั้งครรภ์ โดยธรรมชาติจะอนุญาตให้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์ที่สุดอยู่รอด โดยทารกที่เกิดจากเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์มีโอกาสพบความผิดปกติไม่ต่างจากการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ
สำหรับการใช้ฮอร์โมนหลังการย้ายตัวอ่อนมีความจำเป็นอย่างมาก จำเป็นต้องใช้ตามแพทย์กำหนด
อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์ก่อนนัด เช่น มีภาวะรังไข่ถูกกระตุ้น มากเกินไป (อาการท้องอืดมาก ปัสสาวะออกน้อยลง) ปวดท้องมากมีเลือดออกทางช่องคลอด
บันทึกการตั้งครรภ์ของ ครูก้อย #Day1 : (หลังใส่ตัวอ่อนระยะ Full Blast ;เลี้ยง 5 วัน)
วันนี้ตัวอ่อนน้อยของแม่กำลังเจาะเปลือกไข่ออกมา คงออกไม่ยากใช่มั้ยลูก เพราะคุณหมอได้ใช้เลเซอร์เจาะเปลือกไข่นำทางไว้ให้แล้ว
ภาพนี้จำลองระยะ “hatching blastocyst” ตัวอ่อนกำลังเจาะเปลือกไข่ออกมาฝังตัวที่ผนังเยื่อบุโพรงมดลูก
ตัวอ่อนที่แข็งแรงดี..จะออกจากเปลือก..เมื่อสิ้นสุดวันที่ 6 นับจากวันปฏิสนธิ และภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่เจาะออกจากเปลือกแล้ว..ก็จะเริ่มฝังตัวลงไปบนเยื่อบุโพรงมดลูกของแม่
Comments