นอกจากจะเตรียมความพร้อมของร่างกายให้แข็งแรงตลอดเวลาแล้ว การมีเพศสัมพันธ์วันไข่ตกยังถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ด้วย แต่หากมีเพศสัมพันธ์แล้วยังไม่ท้องสักที ควรทำอย่างไรดี มีตัวช่วยให้ท้องง่ายบ้างหรือไม่ วันนี้ครูก้อยจะมาแนะนำกันค่ะ
มีเพศสัมพันธ์วันไข่ตกแต่ไม่ท้อง เกิดจากอะไร
โดยทั่วไปแล้วการมีเพศสัมพันธ์วันไข่ตกถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์วันปกติเนื่องจากวันตกไข่เป็นช่วงเวลาที่มีการตกไข่เพื่อพร้อมรอการปฏิสนธิกับอสุจิ ใน 1 เดือนจะมีการตกไข่เพียง 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 12 - 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลานี้ก็จะทำให้ไข่ฝังตัวกับเยื่อบุผนังมดลูกและกลายมาเป็นตัวอ่อนที่จะพัฒนาเป็นทารกต่อไป แต่หากไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิในช่วงนี้ก็จะกลายเป็นประจำเดือนในที่สุด แต่หากมีเพศสัมพันธ์วันไข่ตกแล้วแต่กลับไม่ท้องอย่างที่คาดหวังไว้อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. มีเพศสัมพันธ์ผิดวิธี
ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคู่พลาดบ่อยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณช่วงเวลาไข่ตกผิดพลาด นับวันไข่ตกหรือนับรอบเดือนไม่เป็น, การมีเพศสัมพันธ์น้อยเกินไปหรือมากเกินไป, การมีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกพอดี, การใช้เจลหล่อลื่นที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของอสุจิที่ยากขึ้น รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์เฉพาะช่วงก่อนไข่ตกเท่านั้น ไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์หลังวันไข่ตกด้วย
2. อายุที่เพิ่มขึ้น
ส่งผลให้โครโมโซมของเซลล์ไข่ผิดปกติง่ายขึ้นตามวัยด้วย โดยผู้หญิงที่มีอายุ 25 ปีจะมีโอกาสที่โครโมโซมผิดปกติอยู่ที่ 25%, อายุ 35 มีโอกาส 50% และอายุ 40 ปีขึ้นไป จะมีโอกาสอยู่ที่ประมาณ 85 - 90% เลยทีเดียว
3. ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
หรือ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) เป็นภาวะที่ถุงน้ำหลายใบภายในรังไข่โดยมีสาเหตุมาจากต่อมไร้ท่อหรือระบบฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ฮอร์โมนไม่สมดุลเนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) มากเกินไป, มีฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง (Hyperandrogenemia), พันธุกรรมจากคนในครอบครัว ทำให้รังไข่พัฒนาผิดปกติ ไข่ฝ่อตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่เป็นทารก, ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับอินซูลินสูงกว่าปกติและกระตุ้นให้รังไข่ผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) มากเกินไป นอกจากจะทำให้ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาไม่ปกติ เสี่ยงต่อการมีลูกยากแล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะต่าง ๆ ที่มีผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองอย่างเป็นสิว ผิวหน้ามัน หัวล้าน ผมบาง ขนขึ้นตามส่วนต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงมีถุงน้ำ (ซีสต์) ในรังไข่ที่แม้ว่าจะรักษาให้หายได้แต่ก็อาจมีโอกาสเกิดอีกในอนาคต
4. เซลล์ไข่ได้รับความเสียหาย
โดยมีสาเหตุมาจากสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย, การดูแลสุขภาพร่างกายไม่ดีพอจนเกิดการสร้างสารอนุมูลอิสระเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการนอนดึกแต่ตื่นเช้า รับประทานแต่ของหวานของทอด จัดการความเครียดได้ไม่ดีพอ ออกกำลังกายน้อยเกินไป รวมถึงอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษเป็นประจำ เช่น ทำงานหรืออาศัยอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม, จอดอยู่บนท้องถนนเป็นเวลานานและต้องสูดดมควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ฯลฯ
5. ท่อนำไข่อุดตัน
เกิดจากการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานที่มาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือเกิดจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (ช็อกโกแลตซีสต์) หากเกิดภาวะท่อนำไข่ตัน ไม่ว่าจะเป็น 1 ข้าง หรือ 2 ข้างก็ตาม ก็อาจส่งผลให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนตัวมาหาไข่เพื่อปฏิสนธิได้ หากเคลื่อนมาได้ก็ไม่สามารถเคลื่อนตัวมาฝังตัวได้ หรือในกรณีที่รุนแรงที่สุดอาจเกิดการปฏิสนธิได้แต่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของคุณแม่ได้ด้วยค่ะ
6. วัยทองก่อนวัย
เป็นภาวะที่ประจำเดือนหมดก่อนอายุ 40 ปี โดยมีสาเหตุมาจากเข้ารับการรักษาด้วยการ ฉายรังสีหรือทำเคมีบำบัด, รับประทานยาที่มีผลทำให้รังไข่เสื่อมไว, ภาวะติดเชื้อ CMV (Cytomegalovirus), ป่วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง, โครโมโซมผิดปกติ เป็นต้น ภาวะดังกล่าวส่งผลให้โพรงมดลูกบาง รังไข่ฝ่อ ประจำเดือนไม่มาและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกต่อไป นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความต้องการทางเพศที่ลดลง, เหนื่อยง่าย ร่างกายอ่อนเพลีย, นอนหลับยาก, ร้อนวูบวาบบ่อยครั้ง ฯลฯ
มีเพศสัมพันธ์วันไข่ตกแต่ไม่ท้อง แก้ยังไงดี
ครูก้อยแนะนำให้นับวันไข่ตกและรอบเดือนให้เป็นก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ สำหรับวันตกไข่จะเริ่มนับวันที่ประจำเดือนมาเป็น Day 1 โดยมีไข่ตกใน Day 14 ของรอบเดือน ส่วนช่วงที่ไข่สุกเป็นช่วง 5 - 6 วันก่อนหน้านี้ โดยนับรวมไปกับวันไข่ตกด้วยนะคะ ส่วนรอบเดือนจะนับ Day 1 เป็นวันที่ประจำเดือนมาวันแรกและวันสุดท้ายของรอบเดือนนั้นคือวันก่อนหน้าที่ประจำเดือนมาในรอบถัดไป แต่ในความเป็นจริงแล้วรอบประจำเดือนของแต่ละคนจะมีความสั้นยาวไม่เท่ากันค่ะ ดังนั้นครูก้อยขอแนะนำให้คำนวณจากรอบเดือน ลบด้วย Day 14 จะเท่ากับวันไข่ตกนั่นเองค่ะ
ทั้งนี้ครูก้อยแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ก่อน Day 14 จะดีที่สุดค่ะ อย่าลืมนะคะว่าอสุจิจะมีชีวิตอยู่ภายในร่างกายผู้หญิงได้ถึง 3 - 5 วันก็ตาม แต่ไข่จะตกและอยู่เพื่อรอปฏิสนธิได้เพียง 24 ชม. เท่านั้น หากเกิดไข่ตกเมื่อไหร่ เจ้าอสุจิก็พร้อมเข้าไปปฎิสนธิทันที กรณีที่ร่างกายของคุณพ่อคุณแม่แข็งแรง เตรียมพร้อมต่อการตั้งครรภ์แล้วล่ะก็ ทีนี้รอลุ้นผลการตั้งครรภ์ตามที่คาดหวังไว้ได้เลยค่ะ
ครูก้อยมีตัวช่วยให้ท้องง่ายไหมคะ
นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ, พักผ่อนให้เพียงพอ 7 - 8 ชั่วโมงต่อวัน, จัดการความเครียดไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิต, หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีสารพิษเป็นเวลานาน เช่น ท้องถนน, โรงงานอุตสาหกรรม, หลีกเลี่ยงไม่ให้น้องชายสัมผัสกับความร้อนเป็นเวลานาน เช่น งดแช่น้ำร้อนบ่อย ๆ, งดซาวหน้าเป็นประจำ, งดใส่กางเกงรัดแน่นจนอวัยวะเพศอับชื้น ฯลฯ รวมถึงเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถูกโภชนาการ งดรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล, งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับสารพิษที่อาจมีผลต่อระบบสืบพันธุ์อีกด้วยค่ะ
สำหรับตัวครูก้อยเองนั้นมีอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะมาแนะนำก็คือน้ำมะกรูด SHOT 100% by ครูก้อยที่มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ปรับประจำเดือนให้มาอย่างสม่ำเสมอ ช่วยดึงรอบวงจรการตกไข่ให้เป็นปกติเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่มากขึ้น เหมาะทั้งคุณแม่เตรียมท้องแบบปล่อยธรรมชาติและคุณแม่ที่ต้องการบำรุงไข่เพื่อทำ IUI, IVF, ICSI เด็กหลอดแก้ว หากปล่อยธรรมชาติ ครูก้อยแนะนำให้ดื่มทุกวัน วันละ 2 SHOT หยุดดื่มทันทีเมื่อตั้งครรภ์ (เช้า 1 SHOT และก่อนนอน 1 SHOT) ส่วนคุณแม่ที่ต้องการบำรุงไข่แนะนำให้ดื่มวันละ 2 SHOT เป็นเวลา 3 เดือนก่อนเก็บไข่ ส่วนช่วงเตรียมผนังมดลูกแนะนำให้ดื่มวันละ 1 SHOT ค่ะ
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม >> Kaffir Lime Juice น้ำมะกรูด SHOT คั้นสด 100% (150 ml)
Commentaires