หนึ่งในคำถามคาใจคุณแม่หลายๆ คนคือการมีรอบเดือนสั้นหรือยาวเกินไป จะส่งผลต่อการมีบุตรยากมั้ย แล้วรอบเดือนที่ปกติจะต้องมีกี่วัน แต่ละรอบเดือนควรมีประจำเดือนมากี่วัน มีวิธีแก้ให้เป็นปกติมั้ย วันนี้ครูก้อยมีคำตอบค่ะ
รอบเดือนปกติมีกี่วัน
รอบเดือนในแต่ละเดือนถือว่าเป็นตัวชี้วัดสมดุลฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง และแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของการทำงานของระบบสืบพันธุ์โดยรวมของเพศหญิง โดยทั่วไปรอบเดือนโดยปกตินั้นมี 28-35 วัน โดยนับวันที่มีประจำเดือนวันแรกเป็นวันที่ 1 และวันก่อนวันแรกของประจำเดือนรอบถัดไปเป็นวันสุดท้าย หากคุณแม่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอทุกเดือน แต่บางรอบมาสั้นบ้าง ยาวบ้างภายใน 28-35 วัน ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากรอบเดือนสั้นกว่า 21 วัน หรือยาวกว่า 36 วัน และมาไม่สม่ำเสมอ บางเดือนมี 21 วัน อีกเดือน 40 วัน อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณของประจำเดือนผิดปกติค่ะ
แต่ละรอบเดือนควรมีประจำเดือนมากี่วัน
โดยทั่วไป 3-7 วันถือว่าปกติค่ะ หากมามากกว่านั้นและมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดท้องรุนแรง, มีลิ่มเลือด, สีหรือกลิ่นผิดปกติ ครูก้อยแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดต่อไป เพราะอาจเป็นสัญญาณของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, เนื้องอกในรังไข่ หรือมะเร็งปากมดลูก
สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมีรอบเดือนสั้น หรือยาวกว่าปกติ
1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง
ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งต้องพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กหาสาเหตุอย่างละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง บางทีอาจเกิดจากวัยทองก่อนวัย, รังไข่เสื่อม หรือมีโรคอย่างอื่น เช่น ไทรอยด์ เป็นต้น
2. มีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง
หรือ PCOS เป็นภาวะที่ผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป มีอาการอ้วนลงพุง ขนดก หน้ามัน เป็นสิว ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในภาวะนี้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หลายเดือนมาที หรือประจำเดือนขาดหายและทำให้ไข่ไม่ตก เมื่อไข่ไม่ตกก็ไม่มีโอกาสท้องนั่นเองค่ะ
มีวิธีแก้รอบเดือนสั้นมั้ย
หากแม่ๆ ต้องการให้รอบเดือนกลับมาเป็นปกติ ครูก้อยแนะนำให้พยายามปรับฮอร์โมนให้สมดุล เพื่อส่งผลให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอและวงจรการตกไข่เป็นปกติขึ้น โดยวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ได้แก่
1. ปรับพฤติกรรมในการรับประทานอาการ
ควรทานอาหารที่มีโภชนาการสูง โดยเน้นโปรตีนธัญพืช, ผักสด, ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ รวมถึงงดทานของหวาน, ของมัน และของทอด
2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ความอ้วนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไข่ไม่ตกเรื้อรังและเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน รวมถึงดูแลตัวเองไม่ให้ผอมจนเกินไปเพราะจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศไม่ปกติ
3. พักผ่อนให้เพียงพอและพยายามผ่อนคลาย
ความเครียดจะสั่งให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่า "คอร์ติซอล" ออกมารบกวนสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงนั่นเองค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
Comments