คุณแม่ทั้งหลายทราบมั้ยคะว่านอกจากอาหารฤทธิ์ร้อนที่ควรทานเพื่อบำรุงมดลูกให้อุ่นและพร้อมต่อการฝังตัวอ่อนแล้ว การทานอาหารฤทธิ์เย็นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และวันนี้ครูก้อยจะมาแนะนำอาหารฤทธิ์เย็นให้แม่ๆ ได้เปิดใจลองชิมกันค่ะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นตามครูก้อยมาได้เลย
อาหารฤทธิ์เย็นคืออะไร
เป็นอาหารที่มีรสจืดหรือหวานจากธรรมชาติ ย่อยง่าย ให้พลังงานและเผาผลาญน้อยแต่ให้วิตามิน แร่ธาตุอยู่ในระดับที่พอดี มีกลิ่นอ่อนไม่ฉุนเกินไป อาหารประเภทนี้มีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์เย็นตัวลง ธาตุไฟในร่างกายสมดุล ทำให้สภาวะเลือดมีความเป็นด่างเล็กน้อย (อยู่ที่ pH7) ซึ่งเป็นสภาวะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งเป็นอาหารที่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนมากพอให้ใครหลายคนปรับสมดุลไม่ทัน จนเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว รุนแรงไปจนถึงขั้นหมดสติ หากไม่รีบพาไปรักษาอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทานอาหารฤทธิ์เย็นมากขึ้น
ขณะตั้งครรภ์เป็นช่วงที่คุณแม่ทานอาหารมากขึ้นและบ่อยขึ้นเพื่อนำสารอาหารต่างๆ ส่งไปให้ลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากตามด้วย นอกจากอาหารทั่วไปแล้วคุณแม่ยังต้องบำรุงตัวเองด้วยสมุนไพรหลากชนิดซึ่งสมุนไพรหลายชนิดมีฤทธิ์ร้อน ส่งผลให้คุณแม่รู้สึกร้อนและมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ ดังนั้นการทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นจะช่วยปรับสมดุลในร่างกายไม่ให้ร้อนจนเกิดภาวะ ฮีทสโตรก
คุณสมบัติของอาหารฤทธิ์เย็น
บรรเทาความร้อนภายในร่างกาย
ทานแล้วไม่รู้สึกร้อนวูบวาบ
ใช้พลังงานในการย่อยและดูดซึมน้อยกว่าอาหารไขมันสูง
ประเภทของอาหารฤทธิ์เย็น
แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์, ผักและผลไม้ที่มีส่วนประกอบของน้ำสูง, สมุนไพร และธัญพืช ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มีฤทธิ์เย็น
ไข่ อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 โปรตีนและกรดอะมิโน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลูทีน โคลีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน A และ D ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด บำรุงสายตาและสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการกระดูกของและไขข้ออักเสบ ช่วยพัฒนาระบบประสาท สายตา และสมองของลูกน้อยในครรภ์ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะในร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคอัลไซเมอร์ และชะลอความแก่
หอยนางรม อุดมไปด้วยวิตามิน B1, B2, B3, C, D โอเมก้า 3 ธาตุเหล็ก ทอรีน ทองแดง และไอโอดีน ช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทและสมองทำงานเต็มประสิทธิภาพ ป้องกันภาวะเป็นหมัน บำรุงผิวพรรณ หัวใจและกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังระบบสืบพันธุ์ด้วยแร่สังกะสี ช่วยให้มีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ลดระดับ ไขมัน ไตรกลีเซอไรด์และป้องกันภาวะระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ ป้องกันโรคกระดูกพรุน
ปู อุดมไปด้วยไกลซีน ฟอสฟอรัส กรดกลูตามิก อาร์จีนีน ไอโอดีน ลดอาการกล้ามเนื้อตีบ ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจปกติ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย กำจัดแอมโมเนียออกจากร่างกาย ทำให้ระบบความจำทำงานดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของต่อมไธมัสให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเชื้อโรคให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เสริมสร้างเม็ดเลือดขาวสำหรับต่อต้านมะเร็งและป้องกันภาวะร่างกายขาดไอโอดีน
2. ผักฤทธิ์เย็น
ผักบุ้งไทย นอกจากจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามิน A, B1, B6, C, โซเดียม, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก, ซีลีเนียม, สังกะสี และไฟเบอร์ ช่วยบำรุงเลือดและตับ บรรเทาอาการปวดศีรษะ, แก้อาการอ่อนเพลีย ลดน้ำตาลในเลือด ลดอาการปัสสาวะเหลือง รักษาโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ และลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย
ผังกวางตุ้ง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากชนิด เช่น วิตามิน A, B6, C, K แคลเซียม และกรดโฟเลท ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง บำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ
มะเขือเทศ อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ โพแทสเซียม วิตามิน C และสารไลโคปีน ปกป้องเซลล์ไม่ให้เสื่อมสภาพ ช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว รักษาโรคความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งรังไข่ โรคหัวใจขาดเลือด ภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวาย เสริมสร้างระบบย่อยในกระเพาะอาหารและการขับถ่ายทำงานดีขึ้น รวมถึงบรรเทาอาการเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส เสริมสร้างภูมิคุ้มหันในร่างกาย ช่วยชะลอริ้วรัยแห่งวัยและบำรุงสายตา
ถั่วงอก อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ น้ำ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไทอะมีน ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน และวิตามิน C มีส่วนช่วยบำรุงระบบย่อยและระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ ขับของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งนี้ไม่ควรทานถั่วงอกแบบดิบ เนื่องจากถั่วงอกมีไฟเตตซึ่งไปจับตัวกับแร่ธาตุต่างๆ จนร่างกายไม่ดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ เท่ากับว่าร่างกายไม่ได้สารอาหารเหล่านี้เลย
3. สมุนไพรฤทธิ์เย็น
ว่านหางจระเข้ อุดมไปด้วยสารโพลียูโรไนด์และโพลีแซคคาไรด์ รักษาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ ล้างพิษของตับ ป้องกันโรคเบาหวาน บรรเทาอาการเมารถ-เรือ ใช้รักษาอาการปวดตามข้อ หรือใช้เป็นยาถ่ายก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรังไข่ ต่อมไทรอยด์ และต่อมพิทูอิทารี
รางจืด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย แก้ไข้ แก้ลมพิษ ลดอาการปวดบวม แก้ท้องเสียท้องร่วง แก้ร้อนในกระหายน้ำ รักษาสะเก็ดเงิน ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้ในการถอนพิษสุรา ยาเสพติด และยาฆ่าแมลง
โสมไทย อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B, B1, B2 และเส้นใยอาหาร ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงปอด บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ช่วยขับน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอด แก้ปัญหาปัสสาวะขัด ไอเรื้อรัง มีเหงื่อออกมาก ปวดศีรษะมีไข้ ท้องเสีย รักษาปัญหาประจำเดือนมาผิดปกติ ไอเป็นเลือด รักษาโรคหอบหืด โรคไตและตับ ช่วยลดคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้เป็นยาบำรุงร่างกายหลังฟื้นไข้ใหม่ๆ ด้วย
มะรุม อุดมไปด้วยโปรตีนสูง วิตามิน A แคลเซียม โพแทสเซียม ใยอาหารสูงมาก รวมถึง กรดอะมิโนที่จำเป็น 8 ชนิด ที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ได้แก่ ไอโซลิวซีน, ลิวซีน, ไลซีน, เมทไธโอนีน , ฟีนิลอะลานีน, ทรีโอนีน และทริทโอยีน แถมยังมีแคลอรี่ต่ำด้วย มีฤทธิ์ช่วยให้ นอนหลับง่าย แก้ไข้ไม่สบาย เป็นยาระบาย ลดไขมันในเลือดและความดันโลหิต ป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการปวดข้อ บำรุงเซลล์ต่างๆ ฟื้นฟูพละกำลัง และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
4. ผลไม้ฤทธิ์เย็น
กล้วย อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต ไฟเบอร์ ซัลเฟต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน วิตามิน A และ C ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการท้องผูก นอนไม่หลับ ป้องกันโรคกระดูกเปราะ เสริมสร้างระบบย่อยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บำรุงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจ อีกทั้งลดอาการปวดท้องช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
ชมพู่ อุดมไปด้วยวิตามิน A B1 B2 B3 C แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ ฟอสฟอรัส แมงกานีส ธาตุเหล็ก กรดบิทูลินิก สารแจมโบไซน์ ป้องกันการติดเชื้อราบริเวณผิวหนัง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยให้ระบบขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เสริมสร้างสระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคมะเร็ง แถมยังควบคุมคอเลสเตอรอลในร่างกายอีกด้วย
มังคุด อุดมไปด้วยวิตามิน B1, B, C, เส้นใยอาหาร และโฟเลต ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ลดโอกาสหลอดเลือดอุดตัน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ขับถ่ายสะดวกขึ้น ป้องกันท้องอืด ย่อยอาหารได้ดี ต้านการอักเสบ บำรุงผิวและรักษาโรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังป้องกันการพิการ แต่กำเนิดในทารก และสร้างน้ำนมของคุณแม่หลังคลอด
สับปะรด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระทั้งบีตาแคโรทีน ไลโคบีน วิตามิน A และวิตามิน C ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย ลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดความร้อนในร่างกายและดับกระหาย ป้องกันข้อเข่าเสื่อม ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อีกทั้งยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกที่ผิดปกติอย่างเช่นเซลล์มะเร็ง
เสาวรส อุดมไปด้วยโพแทสเซียม วิตามิน A, B, C, แคลเซียม, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม และซุปเปอร์วิตามิน นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายแล้ว ยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงสายตา ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิวพรรณ สมองปลอดโปร่งเพราะส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง และช่วยให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง
ฝรั่ง อุดมไปด้วยวิตามิน A, B1, B2, B3, C กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย ป้องกันโรคอหิวาตกโรค โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ป้องกันความผิดปกติของหัวใจ นอกจากนี้ยังบำรุงเหงือกและฟัน ดับกลิ่นปาก รักษาเลือดออกตามไรฟัน
5. ธัญพืช
ลูกเดือย อุดมไปด้วยสารคอกซีโนไลด์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่นำมาสู่มะเร็ง สร้างเม็ดเลือดและขับพิษ บำรุงม้ามและไตได้ดี ป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะและความดันโลหิตสูง ลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี เนื่องจากลูกเดือยมีเส้นใยอาหาร ช่วยให้อยู่ท้องและรู้สึกอิ่มนานขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วน
ถั่วเหลือง อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนจำเป็นถึง 10 ชนิด ย่อยง่าย ไขมันต่ำ อีกทั้งมีสารไฟโตเอสโตรเจน ช่วยลดอาการที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลของผู้หญิงวัยทอง ซ่อมแซมกระดูกส่วนที่สึกหรอ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และกระตุ้นการ ขับถ่ายให้ทำงานได้เต็มที่
ถั่วเขียว อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี โฟเลต วิตามิน B, C, E และ K ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ ภาวะติดเชื้อและท้องผูก ป้องกันภาวะโลหิตจาง มีฤทธิ์ช่วยล้างระบบลำไส้และขับสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร แถมยังบำรุงครรภ์ให้แข็งแรงด้วยโฟเลต ป้องกันการแท้งบุตร ป้องกันภาวะพิการในทารกและคลอดก่อนกำหนด
ถั่วลันเตา อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน A, C, K โฟเลต แมงกานีส ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ มีส่วนช่วยลดไขมันคอเลสเตอรอลชนิด ไม่ดี รักษาโรคเบาหวาน ป้องกันสารอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี และลดความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอีกด้วย
Comments