มูกไข่ตก หรือ CM (Cervical Mucus) เป็นสิ่งหนึ่งแม่ๆ หลายๆ คนอาจไม่ค่อยได้ยินคำนี้มากนัก แต่ครูก้อยต้องบอกก่อนเลยค่ะว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสุดๆ สำหรับการตั้งครรภ์ ดังนั้น การสังเกตมูกตัวนี้ จึงเป็นสิ่งที่แม่ๆ ควรทำอย่างยิ่งเพื่อตรวจสอบภาวะเจริญพันธุ์ของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่าควรมีเพศสัมพันธ์ช่วงไหนให้มีโอกาสตั้งครรภ์มากที่สุดนั่นเองค่ะ
มูกไข่ตก คืออะไร มีหน้าที่อะไร สำคัญกับการตั้งครรภ์อย่างไร?
สิ่งหนึ่งคุณควรทำในการตรวจสอบภาวะเจริญพันธุ์ของตัวเองคืสังเกตุดูลักษณะการเปลี่ยนแปลงของมูกช่องคลอด (Cervical Mucus, CM) เพื่อที่จะได้ทราบว่าควรเริ่มมีเพศสัมพันธุ์ช่วงไหนจึงมีโอกาสตั้งครรภ์มากที่สุด ในแต่ละช่วงของวงจรรอบเดือนคุณจะเห็นว่าปริมาณของและลักษณะของมูกไข่ตกจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มูกที่หลั่งออกมาในช่วงใกล้ไข่ตกจะเรียกว่า “fertile cervical mucus” ซึ่งจะมีลักษณะต่างจาก non-fertile CM อย่างเห็นได้ชัด ปริมาณของมูกจะมีมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้วันไข่ตก non-fertile CM มีลักษณะข้นจับตัวเป็นก้อน ไม่สามารถนำมาจับยืดได้ มีสีขาวขุ่นหรือเหลืองครีมอ่อนๆ
มูกไข่ตก คือ...
มูกไข่ตก (Fertile CM) จะมีลักษณะยืดยาว ลื่น และค่อนข้างเหลว ซึ่งจะหลั่งออกมาในช่วงครึ่งแรกของวงจรรอบเดือนเมื่อร่างกายมีระดับเอสโตรเจนสูงขึ้น บางครั้งจะเรียกว่า EWCM ย่อมาจาก egg-white cervical mucus เพราะมูกมีลักษณะเหมือนไข่ขาวดิบ ศัพท์ทางการแพทย์ของมูกไข่ตกคือ “spinnbarkeit” เป็นภาษาเยอรมันแปลตามตัวว่ามีคุณสมบัติ “ยืดยาวได้”
เนื่องจากมูกไข่ตกจะมีค่า pH สูงกว่ามูกในช่วงอื่น (มีความเป็นกรดน้อย) ซึ่งจะช่วยปกป้องตัวอสุจิให้มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นและช่วยให้ตัวอสุจิมีการว่ายเคลื่อนไหวได้ดี การมีมูกไข่ตกมากจะช่วยยืดระยะ fertile ของคุณได้ เพราะมูกจะไปช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้มี “ความเป็นมิตรกับตัวอสุจิ”
วิธีสังเกตมูกไข่ตกด้วยตัวเอง
คุณสามารถสังเกตุเห็นได้ด้วยตัวเองว่าประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนไข่ตกจะมีมูกออกมามากขึ้น และลักษณะของมูกก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อย จนกลายเป็นมูกลักษณะ EWCM ในช่วงวันไข่ตกพอดี เมื่อพบ EWCM ให้คุณทราบได้เลยว่าคุณกำลังอยู่ในช่วง fertile สูงสุด หลังไข่ตกไปแล้วคุณจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีเพราะมูกจะค่อยๆ ข้นขึ้น ขุ่นขึ้นและมีปริมาณน้อยลง
ครูก้อยแนะนำให้แม่ๆ ล้างมือให้สะอาด จัดท่าทางที่สะดวกกับตัวเอง จะนั่งหรือนอนก็ได้เช่นกัน จากนั้นใช้นิ้ว 1-2 นิ้วใส่เข้าไปในช่องคลอด และใช้นิ้วแตะมูกที่ปากมดลูกอย่างเบามือ หากพบว่ามีมูกไหลออกมาแสดงว่าอยู่ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนไข่ตก โดยมูกจะมีลักษณะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลา ดังนี้ฃ
ช่วงหลังมีประจำเดือน มูกไข่ตกมีลักษณะแห้ง โอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก
ช่วงวันที่ 4-6 ของรอบเดือน มูกไข่ตกมีลักษณะเหนียว โอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก
ช่วงวันที่ 7-9 ของรอบเดือน มูกไข่ตกมีลักษณะเหนียวข้นคล้ายครีม โอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก
ช่วงวันที่ 10-14 ของรอบเดือน หรือ 2 วันก่อนไข่ตก มูกไข่ตกมีลักษณะลื่น ขาวใส และยึดได้ โอกาสตั้งครรภ์สูงมาก
นอกจากนี้อาจตรวจดูมูกที่ติดอยู่ตามกางเกงใน, กระดาษทิชชู หรือหลังการขับถ่ายก็ได้ เนื่องจากลำไส้บีบตัวจนมูกไหลออกมาจากปากมดลูกนั่นเอง
แนวทางแก้ไขเมื่อเกิดภาวะช่องคลอดแห้ง
ผู้หญิงแต่ละคนอาจมีลักษณะของ CM ไม่เหมือนกัน และบางคนก็อาจไม่พบมูกที่มีลักษณะเหมือนไข่ขาวดิบแป๊ะๆ การรับประทานยา clomid สามารถทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งและมีผลยับยั้งการผลิตมูกชนิด fertile การใช้เจลหล่อลื่น Conceive Plus ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยบรรเทาภาวะช่องคลอดแห้งและช่วยทดแทนภาวะมี CM น้อยได้ ช่วยให้คุณมีความรู้สึกดีและเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
ดูแลตัวเองอย่างไรให้มูกไข่ตกมีคุณภาพดีขึ้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่หนักเกินพอดี
ทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาทะเลน้ำลึก, หอยนางรม, สาหร่าย, วอลนัท, เมล็ดงาขี้ม้อน
ทานผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C ได้แก่ มะกรูด, ส้ม, สตรอเบอร์รี่, บรอกโคลี, ผักคะน้า
ใช้เจลหล่อลื่น Conceive Plus ขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อบรรเทาภาวะช่องคลอดแห้งและช่วยทดแทนภาวะมีมูกไข่ตกน้อย ช่วยให้คุณแม่รู้สึกดีและเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์อีกด้วย
หลีกเลี่ยงยา Clomid เนื่องจากทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้ง มีผลยับยั้งการผลิตมูกไข่ตก
หากพบความผิดปกติภายในช่องปาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ดี การที่เราสามารถที่จะติดตามลักษณะของมูกช่องคลอด ทำให้เราสามารถวางแผนในการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมูกไข่ตก (Fertile cervical mucus) พบในหญิงแทบทุกคน และไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการตรวจ อย่างไรก็ตามมีบางปัจจัยที่อาจมีผลทำให้มูกไข่ตกผิดปกติ มีคุณภาพที่แย่ได้ และมีบางปัจจัยที่สามารถเพิ่มคุณภาพให้มูกไข่ตกได้ค่ะ
Commentaires