งานวิจัยเผย โอเมก้า 3 ตัวช่วย "เร่งไข่ตก"
นักวิจัยจาก Harvard Medical School และ Harvard T.H. Chan School of Public Health ได้ทำการศึกษาและพบว่าการทานอาหารส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ (Diet and Fertility : A review, 2017) โดยหนึ่งในผลการศึกษาพบว่าไขมันดีอย่างโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อภาวะการเจริญพันธุ์ของผู้หญิงค่ะ
โอเมก้า 3 คืออะไร?
โอเมก้า 3 เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fatty acid) อยู่ในกลุ่มของกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เองจำเป็นต้องรับจากอาหาร
Omega 3 สามารถแบ่งออกได้เป็น
👉ดีเอชเอ DHA (Docosahexaenoic acid) และ
👉อีพีเอ EPA (Eicosapentaenoic acid)
กรดไขมันทั้งสองชนิดนี้มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ ลดระดับไขมันที่เป็นอันตราย เพิ่มไขมันดีในเลือด ลกความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยเสริมสร้างเซลล์สมองและดวงตา
โอเมก้า 3 ส่งเสริมภาวะเจริญพันธุ์อย่างไร?
👉ในส่วนของการเสริมภาวะเจริญพันธุ์ (fertility) นั้น โอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มการสร้าง nitrix oxide ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะสืบพันธุ์ได้ดีขึ้นมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มคุณภาพเซลล์ไข่ โดยเฉพาะผู้หญิงวัย 35 ขึ้นไปที่เซลล์ไข่เริ่มเสื่อมคุณภาพ ประสิทธิภาพในการทำงานของรังไข่ลดลง ควรทานโอเมก้า 3 ให้เพียงพอ นอกจากนี้โอเมก้า 3 ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มคุณภาพของสเปิร์มอีกด้วย
จากงานวิจัยของสถาบัน University of Colorado Advanced Reproductive Medicine เมื่อปี 2016 ได้นำเสนอในที่ประชุม American Society for Reproductive Medicine Meeting
👉ได้ทำการทดลองกับหนูทดลองที่รับโอเมก้า 3 พบ
ว่า หนูทดลองมีไข่ที่อยู่ในภาวะเจริญพันธุ์ที่สามารถปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนที่มีชีวิตได้มากกว่า กล่าวคือคุณภาพของเซลล์ไข่จะมีคุณภาพมากกว่าสัตว์ที่ไม่ได้รับโอเมก้า3
👉ซึ่งไข่ที่มีคุณภาพนี้เองมีโอกาสที่จะพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนที่มีคุณภาพได้ในอนาคต (embryo development)
👉นักวิจัยจึงสรุปเบื้องต้นได้ว่าโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยเพิ่มภาวะเจริญพันธุ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของรังไข่ การตกไข่ (ovarian reserve) และเพิ่มคุณภาพของเซลล์ไข่อย่างไรก็ตามยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์ต่อไป
ต่อมาในปี 2017 University of Colorado Advanced Reproductive Medicine ได้ศึกษาอย่างต่อเนื่องในผลของทานโอเมก้า 3 ต่อภาวะเจริญพันธุ์ โดยงานวิจัยในปี 2017 ที่ได้นำเสนอในงานสัมมนา Endocrine Society ได้เสนอผลการวิจัยที่ทดลองกับผู้หญิงที่อยู่ในภาวะอ้วน (obese women) ซึ่งโรคอ้วนเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะมีบุตรยาก และทำให้ร่างกายอักเสบ ซึ่งการอักเสบก็
เป็นสาหตุหนึ่งของการมีบุตรยากเช่นกัน
👉ผลการศึกษาพบว่า...โอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน #ช่วยให้ไข่ตกเป็นปกติขึ้น และฮอร์โมนตัวนี้มีส่วนช่วยให้มดลูกพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน การทานโอเมก้า 3 จึงมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
👉ยิ่งไปกว่านั้นโอเมก้า 3 ยังช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง จากการทดลองพบว่าระดับค่าความอักเสบของผู้หญิงในกลุ่มทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ยังมีอีกงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร The American Journal of Clinical Nutrition เมื่อปี 2016
ศึกษาพบว่าการรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงมีส่วนในการ "#ช่วยลดภาวะไข่ไม่ตก" (anovulation)
นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวสำคัญในการทำให้มดลูกหนาตัวเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์อีกด้วย
มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Aging Cell เมื่อปี 2012 ศึกษาพบว่า โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงเซลล์ไข่ และ
ชะลอความเสื่อมของรังไข่ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
เราจะทานโอเมก้า 3 ได้จากแหล่งใดบ้าง?
จากที่กล่าวข้างต้น โอเมก้า 3 เป็นไขมันที่จำเป็นแต่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการทานอาหารเข้าไปเท่านั้น จึงต้องทานโอเมก้า 3 ให้เพียงพอ
หากพูดถึงโอเมก้า 3 แน่นอนว่ามีมากในปลาทะเลน้ำลึก ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ซึ่งให้โอเมก้า 3 สูงกว่าปลาน้ำจืดบ้านเราที่มีโอเมก้า 3 อยู่ในปริมาณน้อย เช่น ปลาดุก ปลาช่อน ปลาสวาย เป็นต้น
ปัจจุบันการได้รับโอเมก้า 3 ให้เพียงพอสามารถทานได้จากวิตามิน Fish Oil (น้ำมันปลา) ฟิชออยให้กรดไขมันดี โอเมก้า 3 DHA และ EPA ครบถ้วน ผู้หญิงวางแผนท้องควรทานเสริมเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมตั้งครรภ์ค่ะ เพื่อ
✔ช่วยปรับสมดุลฮอรโมน
✔ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงระบบสืบพันธุ์ได้ดีขึ้น
✔บำรุงเซลล์ไข่ บำรุงรังไข่ ชะลอรังไข่เสื่อม
✔ช่วยให้ไข่ตกเป็นปกติ
รู้อย่างนี้แม่ๆเตรียมตัวท้องต้องทานโอเมก้า 3 ให้เพียงพอต่อวันนะคะ
Comments