แม้ว่าในปัจจุบันจะมีคอลลาเจนวางจำหน่ายมากมาย แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังสงสัยและลังเลว่าคอลลาเจนที่วางขายตามท้องตลาดนั้นดีต่อสุขภาพผิวของเราจริงไหม เลือกซื้ออย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังไว้ วันนี้ครูก้อยจะมาตอบทุกคำถามที่คุณควรรู้ก่อนกินคอลลาเจนบำรุงผิวกันค่ะ
คอลลาเจนคืออะไร
เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในชั้นผิวหนังของมนุษย์มากถึง 80% ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของอวัยวะต่าง ๆ ได้แก่ ผิวหนัง เส้นผม เล็บ ฟัน กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ หลอดเลือด เป็นต้น คอลลาเจนมีคุณสมบัติยึดเกาะอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย แม้ว่าคอลลาเจนจะเป็นโปรตีนที่ผลิตในร่างกายได้ก็ตาม แต่ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและเส้นใยคอลลาเจนลดลงตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ปีละ 1 - 2% เมื่อคอลลาเจนในร่างกายลดลง ส่งผลให้ผิวไม่กระชับเหมือนเคย มีริ้วรอยตามมา
คอลลาเจนมีกี่ชนิด อะไรบ้าง
คอลลาเจนชนิดที่ 1 (type I) เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกายถึง 90% พบได้ในผิวหนังและกระดูก ทำหน้าที่สร้างผิวหนัง กระดูก เอ็น กระจกตา ผนังหลอดเลือด เป็นคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติเหนียวและแข็งแรงมากที่สุดในบรรดาคอลลาเจนทั้งหมด
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) เป็นคอลลาเจนที่ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นกลไกตตามธรรมชาติที่ช่วยลดการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ คอลลาเจนชนิดนี้พบในกระดูกอ่อน เช่น หู จมูก กระดูกซี่โครงและหลอดลม
คอลลาเจนชนิดที่ 3 (type III) พบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
คอลลาเจนชนิดที่ 4 (type IV) พบได้ในชั้นเยื่อบุผิวอย่างเบซัล ลามินา (basal lamina) เป็นคอลลาเจนที่ทำหน้าที่เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด
คอลลาเจนชนิดที่ 5 (type V) พบได้ในผม รก และเซลล์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังแบ่งตามขนาดโมเลกุลได้อีก 4 ชนิด ได้แก่ คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) ขนาดโมเลกุล 300,000 ดาลตัน, คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) ขนาดโมเลกุล 500 - 1,000 ดาลตัน, คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) ขนาดโมเลกุล 200 ดาลตัน และไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด
ประโยชน์ของคอลลาเจนมีอะไรบ้าง
ชะลอริ้วรอยก่อนวัย
บำรุงผิวพรรณ เติมความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้แก่ผิว
ปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างใส ป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ
ลดการอับเสบของผิวและป้องกันการเกิดสิว
ปกป้องผิวจากมลพิษนอกบ้าน
บำรุงกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เส้นผม และเล็บให้แข็งแรง
บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง เส้นผมนุ่มลื่น
ชะลอการสลายของมวลกระดูก
บำรุงลำไส้และกระตุ้นการขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอ
เสริมประสิทธิภาพกระบวนการเผาผลาญไขมัน
เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย
กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
คอลลาเจนลดลง เกิดจากอะไรบ้าง
ช่วงอายุมากขึ้น
พันธุกรรมจากคนในครอบครัว
สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
ผู้ที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ (ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง) เป็นประจำ
มีภาวะความเครียดสะสมเป็นเวลานาน
ผู้ที่ทำงานหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดแรง มีมลภาวะเป็นเวลานาน
ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลเป็นประจำ
คอลลาเจนมีในไหนบ้าง
วิตามิน C ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น พบได้ในพริกหยวก บรอกโคลี มะเขือเทศ มะนาว ฝรั่ง สตอร์เบอร์รี่
โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้แก่ร่างกาย อีกทั้งเติมร่องลึกที่เสียหายจากอนุมูลอิสระ พบได้ในปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแซลม่อน เมล็ดแฟลกซ์ อัลมอนด์ ถั่วเฮเซลนัท เป็นต้น
ถั่วเหลือง ช่วยยกกระชับผิวให้กระชับเต่งตึง และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น พบได้ในน้ำถั่วเหลือง ชีสถั่วเหลือง ซอสถั่วเหลือง (ซีอิ๊ว) เทมเป้ (Tempeh) โปรตีนเกษตร เป็นต้น
ผักใบเขียว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระลูทีน (Lutein) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งมีกรดโฟลิก (Folic Acid) ช่วยลดระดับความเครียดลง ป้องกันผิวเครียดจากภาวะความเครียดได้เป็นอย่างดี พบได้ในคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดเขียว ผักปวยเล้ง เป็นต้น
ดาร์กช็อกโกแลต อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ
ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเหมาะกับใคร
ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
ผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้กลับมาสว่างใส
ผู้ที่มีอาการปวดข้อ กระดูกเสื่อม
ผู้สูงอายุ
ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนไม่เหมาะกับใคร
คุณแม่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเล
ผู้ที่มีประวัติแพ้ไก่หรือไข่
ผู้ที่มีประวัติแพ้สารสกัดบางชนิดในผลิตภัณฑ์คอลลาเจน
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิคุ้มกันเลือดบกพร่อง (SLE), โรคพังผืดกดทับเส้นประสาท, โรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนในปัจจุบันมีกี่แบบ อะไรบ้าง
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ เวชสำอางอย่างสบู่, เซรั่ม, ครีม, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ได้แก่ คอลลาเจนแบบเม็ด, คอลลาเจนแบบชง และเครื่องดื่มคอลลาเจนพร้อมทาน, การฉีดคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายจากคลินิกเสริมความงาม, คอลลาเจนทางการแพทย์สำหรับรักษาโรค และขนมคอลลาเจน
คอลลาเจน มีผลข้างเคียงไหม
หากคุณรับประทานคอลลาเจนมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพตามมา เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย แสบร้อนกลางอก ปวดศีรษะ หรืออาจเกิดอาการแพ้เจลาตินในผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ดังนั้นหากคุณต้องการรับประทานผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ครูก้อยขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทานด้วยนะคะ
กินคอลลาเจนทุกวันอันตรายไหม
การรับประทานคอลลาเจนทุกวันนั้นสามารถทำได้ไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่หากต้องทานไม่เกินวันละ 10,000 มิลลิกรัม
กินคอลลาเจนปริมาณเท่าไหร่
สำหรับปริมาณคอลลาเจนที่ครูก้อยแนะนำคือ 2,500 - 5,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันค่ะ
คอลลาเจนควรกินตอนไหนดีที่สุด
ครูก้อยแนะนำให้ทานช่วงเช้าก่อนรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที ถือว่าดีต่อร่างกายมากที่สุดค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่
กินคอลลาเจนอย่างไรให้ได้ผล
ครูก้อยแนะนำให้ทานน้ำตามหลังจากทานคอลลาเจนเข้าไปแล้ว หรืออาจทานควบคู่กับผลไม้ที่มีวิตามิน C อย่างมะเขือเทศ มะนาว ฝรั่ง สตอร์เบอร์รี่ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ทำไมต้อง Colla Telo By KruKoy คอลลา เทโล บาย ครูก้อย
คอลลา เทโล บาย ครูก้อย ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนสำหรับสาว ๆ ทุกคนที่ต้องการบำรุงผิวพรรณของตัวเองให้กระชับเต่งตึงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีผิวโทรมลงหลังตั้งครรภ์ ครูก้อยร่วมกับคณะทีมนักวิทย์ ฯ ที่ปรึกษาเฉพาะด้านผิวพรรณสำหรับสตรีเตรียมตั้งครรภ์โดยเฉพาะ ได้ศึกษาและใช้เวลาในการพัฒนาคอลลาเจนตัวนี้ เพื่อให้แม่ ๆ ที่เตรียมตั้งครรภ์ทานบำรุงผิวสวยได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าจะอันตรายต่อลูกน้อยในท้องเนื่องจากเป็นคอลลาเจนที่ผ่านการรับรองมาแล้วว่ามีความปลอดภัยสูง
คอลลา เทโล บาย ครูก้อย ประกอบด้วยคอลลาเจน Fish Collagen Dipeptide จากประเทศญี่ปุ่น, Hydrolyzed fish protein จากประเทศฝรั่งเศส, Maqui berry extract และ Rice extract (Oryza Ceramide Complex) จากประเทศเยอรมัน, Sodium ascorbate (วิตามิน C) และ D-Pantothenate,calcium (วิตามิน B5) จากประเทศสิงคโปร์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเรียบเนียนให้แก่ผิว, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว, ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่ส่งผลให้ผิวเข้มขึ้น, เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดการสูญเสียอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิวและลดเลือนริ้วรอย อีกทั้งต้านการอักเสบของร่างกายและผิว, ลดการสูญเสียน้ำของผิว ช่วยให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดี
และที่สำคัญคอลลาเจนของเราได้รับการรับรองระบบประกันคุณภาพ GMP , GHPS และ HACCP สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก INTERTEK เลขที่ อย. ที่ 74-1-07455-5-0985 จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยได้ผลแน่นอนค่ะ
อ่านรายละเอียดของ Colla Telo By KruKoy คอลลา เทโล บาย ครูก้อย : คลิก
Comments