ไขข้อข้องใจ IUI IVF ICSI
เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproductive Technologies, ART) ในปัจจุบันเจริญก้าวหน้าไปมากและสามารถช่วยรักษาคู่สมรสที่มีบุตรยากให้มีลูกน้อยได้สมใจ คู่สมรสหลายคู่อาจกำลังวางแผนจะปรึกษาแพทย์เพื่อใช้เทคโนโลยีช่วยตั้งครรภ์ หากกำลังศึกษาข้อมูลกันอยู่เจอทั้งวิธี IUI IVF หรือ ICSI สงสัยกันอยู่ว่ามันคืออะไรและคู่เราเหมาะกับวิธีแบบไหนดี?
วันนี้ครูก้อยสืบค้นข้อมูลมาไขข้อข้องใจให้แล้วค่ะ
1.#การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก
Intra-uterine insemination (IUI)
กระบวนการทำ IUI เป็นอย่างไร?
(1) จะมีการกระตุ้นการตกไข่ในผู้หญิง เมื่อขนาดของถุงไข่เจริญเต็มที่ก็ฉีดยากระตุ้นให้ไข่สุกและเกิดการตกไข่
(2) ฝ่ายชายต้องมาเก็บน้ำเชื้อ
(3) จากนั้นแพทย์จะฉีดน้ำเชื้อที่ผ่านการเตรียมจากห้องปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วเข้าไปสู่โพรงมดลูกแล้ว #ให้อสุจิกับไข่ปฏิสนธิกันเอง เป็นการปฏิสนธิในร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีใกล้เคียงธรรมชาติ
IUI เหมาะกับใคร?
1. คู่สามีภรรยาที่ไม่ทราบสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
2. เพศหญิงอายุไม่เกิน 35 ปี
3. ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่ปกติอย่างน้อยหนึ่งข้าง เพื่อให้อสุจิว่ายไปพบเซลล์ไข่และเกิดปฏิสนธิได้
4. ฝ่ายหญิงมีความผิดปกติ เช่น ปากมดลูกตีบ (Cervical Stenosis)
5. ฝ่ายหญิงมีภาวะไข่ตกผิดปกติ
6. ฝ่ายชายอสุจิผิดปกติเล็กน้อย-ปานกลาง
ดังนั้นจะเห็นว่าการรักษาด้วยวิธี IUI ต้องใช้ #ไข่ และ #อสุจิที่สมบูรณ์ การฉีดเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูกเป็นการย่นระยะเวลาที่ให้อสุจิเจอกับไข่ได้ตรงจุดมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากไข่ไม่มีคุณภาพ หรือ อสุจิไม่แข็งแรงโอกาสปฏิสนธิก็น้อยลงค่ะ การเตรียมตัวบำรุงไข่และสเปิร์มให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
ก่อนเข้าสู่กระบวนการ IUI ค่ะ
2.#การทำเด็กหลอดแก้ว
In-Vitro Fertilization (IVF)
กระบวนการทำ IVF เป็นอย่างไร❓
(1) เก็บไข่ของฝ่ายหญิงกับอสุจิของฝ่ายชายมาผสมกันนอกร่างกาย เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
IVF เป็นเพียงการนำอสุจิกับไข่มาเจอกัน แล้วให้อสุจิกับไข่ผสมกันเองคล้ายกับการปฏิสนธิตามธรรมชาติ แต่เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย
(2) เมื่อปฏิสนธิกันแล้วก็จะกลายเป็นตัวอ่อน ตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงจนถึงระยะเวลาที่เหมาะสมแล้วจะนำตัวอ่อนใส่กลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เจริญเติบโตอยู่ในครรภ์ของฝ่ายหญิงตามปกติต่อไป
IVF เหมาะกับใคร?
1.คู่สมรสที่ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่อุดตันหรือถูกทำลาย
ไม่สามารถปฏิสนธิภายในร่างกายได้
2.ฝ่ายชายเชื้ออสุจิมีจำนวนน้อย ไม่แข็งแรง หรือเคลื่อนที่ไม่ดี
3.คู่สมรสที่พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติมาแล้ว 3 ปี แต่ยังคงไม่สามารถมีบุตรได้โดยไม่ทราบสาเหตุ
4.คู่สมรสที่ได้รับการทำด้วยวิธี IUI มาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
3.#การทำเด็กหลอดแก้ว
Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI)
กระบวนการทำ ICSI เป็นอย่างไร❓
เป็นการปฏิสนธิภายนอกเหมือน IVF แต่จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า
ICSI คือการคัดเลือกเอาสเปิร์มที่ดีที่สุดหนึ่งตัวผสมกับไข่ที่อยู่ในระยะที่เหมาะสมในการปฏิสนธิหนึ่งใบ โดยการใส่สเปิร์มเข้าไปในเนื้อไข่โดยตรง
วิธีการนี้ให้ผลการปฏิสนธิเป็นที่น่าพึงพอใจมากกว่าวิธี IVF เพราะ ช่วยลดปัญหาการปฏิสนธิแบบผิดปกติอันเนื่องมาจากไข่และสเปิร์ม เช่น การเกิดการผสมด้วย
สเปิร์มหลายตัว หรือ สเปิร์มไม่สามารถเจาะผ่านเปลือกไข่เพื่อเข้ามาปฏิสนธิได้ เป็นต้น
ICSI เหมาะกับใคร?
1.ฝ่ายชายมีสเปิร์มที่อ่อนแอมากๆ ทั้งทางด้านรูปร่างของ ความสามารถในการเคลื่อนที่ รวมถึงจำนวนของสเปิร์มมีน้อย
2.ฝ่ายชายที่เป็นหมันหรือทำหมัน แต่ยังคงมีการสร้างสเปิร์มและสามารถนำสเปิร์มออกมาได้จากวิธีการผ่าตัด เช่น การทำ PESA, TESE เป็นต้น
3.คู่สมรสที่เคยไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิสนธินอกร่างกายด้วยวิธี IVF
**ปัจจุบันวิธี IVF จะไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะ ICSI ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่าและประสบความสำเร็จมากกว่า
.
ว่าที่คุณพ่อคุณแม่คงจะได้คำตอบในเบื้องต้นไปแล้วนะคะ อย่างไรก็ตามคู่ของคุณจะใช้วิธีการใดรักษาต้องไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุอย่าง
ละเอียด โดยแพทย์จะใช้วิธีการที่เหมาะสมที่สุดต่อไป
.
.
ที่สำคัญที่สุด ก่อนเข้ากระบวนการเก็บไข่และเก็บน้ำเชื้อครูก้อยแนะนำให้ทานอาหารบำรุงไข่ บำรุงสเปิร์มล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนนะคะ เพื่อบำรุงให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพจากทั้งฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ บวกกับความช่วยเหลือของเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ไม่เสียเงินและเสียเวลาไปเปล่าๆค่า บำรุงไปดี โอกาสได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพมีสูงขึ้น อัตราความสำเร็จก็สูงขึ้นค่ะ
Kommentare