ปัญหาของผู้หญิงเราที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์คงหนีไม่พ้น #ซีสต์ กับ #เนื้องอก บางครั้งก็เกิดความสับสนว่าทั้งสองอย่างนี้เหมือนกันหรือปล่าว หรือแบบไหนร้ายแรงและอันตรายกว่ากัน เราไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
• ซีสต์ (Cyst) คือถุงน้ำที่เกิดขึ้นบนเนื้อเยื่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีลักษณะคล้ายถุงหรือเม็ดแคปซูลที่อยู่ติดกัน โดยภายในซีสต์มักบรรจุของเหลว ของแข็งกึ่งของเหลว หรืออากาศไว้ โดยมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และมักค่อย ๆ ขึ้น ซีสต์ที่ขึ้นบนผิวหนังจะมีลักษณะนูน ส่วนซีสต์ที่ขึ้นใต้ผิวหนังอาจจะคลำได้เป็นก้อน และซีสต์ที่ขึ้นที่อวัยวะภายใน อาจไม่ปรากฏอาการใด ๆ ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกว่ามีซีสต์ขึ้นมาภายในร่างกายตัวเอง
นอกจากนี้ ซีสต์ที่ขึ้นตามร่างกายจะไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดและไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรงหากซีสต์นั้นไม่ได้ติดเชื้อ มีขนาดใหญ่ หรือขึ้นในบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกเนื่องจากซีสต์สามารถขึ้นได้ทุกส่วนของเนื้อเยื่อตามร่างกาย ซีสต์จึงมีกว่าร้อยชนิด
ซีสต์เจอได้บ่อยๆ ไม่มีอันตราย ส่วนใหญ่จะถือขนาดที่ต้องรักษาคือขนาด 5 ซ.ม. หากมีขนาดเล็กๆ ไม่ต้องไปทำอะไร เพียงแต่ตรวจติดตามดูขนาดเป็นระยะ
• สำหรับซีสต์ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงได้แก่
1. ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian Cyst/Adnexal Cysts) คือ ของเหลวที่สะสมอยู่ภายในหรือบนพื้นผิวของรังไข่ โดยถุงน้ำรังไข่มีหลายประเภท ที่พบได้ทั่วไปคือถุงน้ำรังไข่ธรรมดา (Functional Cyst) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ (Follicle Cyst) และซีสต์ถุงน้ำคอร์ปัสลูเทียม (Corpus Luteum Cyst)
(1) ซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ (Follicle Cyst)
ช่วงที่ผู้หญิงเกิดรอบเดือนนั้น ไข่จะเจริญขึ้นในถุงน้ำซึ่งเรียกว่าฟอลลิเคิล โดยถุงน้ำนี้อยู่ภายในรังไข่ ส่วนใหญ่แล้ว ถุงน้ำจะแตกออกและปล่อยไข่ออกมา แต่หากถุงน้ำไม่แตกออกมา ของเหลวที่อยู่ภายในถุงน้ำจะก่อตัวเป็นซีสต์ภายในรังไข่
(2) ซีสต์ถุงน้ำคอร์ปัสลูเทียม (Corpus Luteum Cyst)
ปกติแล้ว ถุงน้ำมักละลายหลังจากที่ปล่อยไข่ออกมา แต่หากถุงน้ำไม่ละลายและถุงน้ำไม่เปิดออก จะเกิดการสะสมของเหลวภายในถุงน้ำ ก่อให้เกิดซีสต์ถุงน้ำคอร์ปัสลูเทียม
นอกจากนี้ยังมีถุงน้ำรังไข่ชนิดอื่นอีก ได่แก่
2. ถุงน้ำรังไข่เดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst)
คือ ซีสต์ที่มีการเติบโตเหมือนถุงน้ำ โดยขึ้นที่รังไข่ ภายในซีสต์จะมีเส้นขน ไขมัน และเนื้อเยื่ออื่น ๆ
3. ถุงน้ำเนื้องอกซีสตาดีโนมา (Cystadenoma)
คือ ซีสต์ที่ไม่เจริญกลายเป็นมะเร็ง มักขึ้นที่เนื้อเยื่อรังไข่
4. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriomas) หรือช็อกโกแลตซีส
คือ เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญภายนอกมดลูกและเกาะติดตรงรังไข่ ทำให้กลายเป็นซีสต์ ช็อกโกแลตซีสต์ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและไม่ค่อยเป็นอันตราย ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการมากน้อยไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่ไม่มีความผิดปกติใด ๆ แสดงอาการเพียงเล็กน้อย หรือรุนแรง เช่นปวดอุ้งเชิงกราน หรือปวดประจำเดือนมาก
.
ดังนั้นซีสต์ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่ผู้หญิงบางคนที่เป็นถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome) หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ หรือ เดอมอยด์ซีสต์ หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา
ภาวะดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดภาวะมีบุตรยาก (Infertility) ตามมาได้
.
• เนื้องอก (Tumor) คือ เนื้อเยื่อที่มีการแบ่งตัวและเจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นเพียงเนื้อเยื่องอกเพิ่มขึ้นมา หรืออาจหมายถึงเนื้อร้ายที่เป็นเซลล์มะเร็งก็ได้
สำหรับเนื้องอกที่เป็นภัยร้ายสำหรับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ได้แก่ "เนื้องอกมดลูก"
เนื้องอกมดลูก เป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่ตัวมดลูกเป็นส่วนใหญ่ เป็นโรคหนึ่งที่พบได้บ่อยในระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี ซึ่งจะพบได้ในช่วงอายุ 30 – 50 ปี โดยมากผู้หญิงที่มีเนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูกอาจมีอาการเหล่านี้
- มีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น
- บางทีไม่มีประจำเดือนแต่ก็รู้สึกปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนอยู่ตลอดเวลา
- อาการประจำเดือนมามากผิดปกติ
- ถ้าเนื้องอกมดลูกมีขนาดใหญ่ อาจจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ก็จะทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย
- ถ้าเนื้องอกมดลูกไปกดทับบริเวณลำไส้ตรง ก็อาจทำให้ท้องผูก
- บางรายก็จะมาด้วยอาการมีลูกยาก ซึ่งเนื้องอกมดลูกจะไปขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน
- เนื้องอกมดลูกสามารถพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งได้ อย่างไรก็ตามสามารถผ่าตัดโดยวิธีการส่องกล้องได้ค่ะ
.
.
แม่ๆทุกคนต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติและตรวจภายในเป็นประจำทุกปีนะคะ ยิ่งวางแผนจะมีลูกต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อจะได้รักษาได้ทันท่วงทีและมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ต่อไปอย่างปลอดภัยค่ะ
Comments