น้ำผึ้งชันโรง (Stingless Bee Honey)
Super food ระดับโลก
" งานวิจัยกว่า 700 ฉบับ ช่วยเพิ่มโอกาสภาวะเจริญพันธุ์
“ชันโรง” เป็นแมลงตัวเล็กๆที่ไม่มีเหล็กใน ภาษาจึงมีชื่อเรียกว่า stingless bee หรือแปลว่าผึ้งที่ไม่มีเหล็กใน แมลงชนิดนี้มีขนาดเล็กและกินเฉพาะน้ำหวานจากดอกไม้เท่านั้นโดยไม่กินน้ำเชื่อมที่มักใช้เป็นอาหารในฟาร์มเลี้ยงผึ้งทั่วไป ชันโรงไม่เลือกชนิดของดอกไม้เหมือนผึ้งอื่นๆ ดังนั้นน้ำผึ้งชันโรงจึงมีการผสมผสานจากดอกไม้นานาพันธุ์รวมไปถึงน้ำหวานจากพืชสมุนไพร จนกลายเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพสูงมีกลิ่นหอมรสชาติอร่อยเปรี้ยวอมหวานจากการหมักตามธรรมชาติ เป็น super food ที่นิยมกันมากในประเทศบราซิล ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซียนั้นน้ำผึ้งชันโรงเป็นที่ยอมรับในวงกว้างถึงสรรพคุณทางยาจนถึงขั้นเรียกว่า “ the mother medicine “
โดยสรรพคุณที่โดดเด่นของน้ำผึ้งชันโรงคือมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก ช่วยชะลอความแก่และความเสื่อมต่างๆ ของเซลล์ เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศและการเจริญพันธุ์ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต้าน
แบคทีเรียลดการอักเสบทำให้แผลหายเร็วขึ้น และยังมีสมบัติต้านเซลล์มะเร็ง
น้ำผึ้งชันโรงนั้นถือได้ว่าเป็นของหายากและผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากธรรมชาติของชันโรงซึ่งผลิตน้ำผึ้งได้น้อยกว่าผึ้งทั่วไปเพราะไม่กินน้ำตาลที่มนุษย์ใช้เลี้ยง โดยแหล่งผลิตน้ำผึ้งชันโรงคุณภาพดีมาจากจังหวัดทางภาคใต้ที่มีสภาพอากาศเหมาะสม แต่ผลผลิตส่วนใหญ่มักถูกกว้านซื้อไปขายในประเทศมาเลเซียจนหมดเพื่อใช้รับประทานบำรุงร่างกายและสำหรับผู้พักฟื้น และผู้ที่ต้องการมีบุตร
นอกจากนี้มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 700 ฉบับเกี่ยวกับน้ำผึ้งชันโรง ซึ่งพบว่าคุณค่าทางโภชนาการของน้ำผึ้งชันโรงสูงกว่าน้ำผึ้งพันธุ์ทั่วไปหลายเท่า โดยสรุปมีรายละเอียดเกี่ยวกับน้ำผึ้งชันโรงดังนี้
1. ลักษณะสีของน้ำผึ้งชันโรงและรสชาติเปรี้ยวอมหวาน
สีของน้ำผึ้งชันโรงนั้นมีได้หลากหลายตามชนิดสาย
พันธุ์และชนิดของดอกไม้ที่เป็นแหล่งอาหาร นอกจากนี้พบว่าสีของน้ำผึ้งชันโรงแตกต่างกันตามเวลาที่เก็บอีกด้วย โดยยิ่งเก็บนานสีจะเข้มขึ้นตามธรรมชาติ และสีที่เปลี่ยนไปไม่ได้บ่งบอกว่าน้ำผึ้งเสีย แต่มีงานวิจัยพบว่าสีที่เข้มขึ้นมีความสัมพันธ์กับปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระประเภทกรด phenolic ที่เพิ่มขึ้น ทางประเทศมาเลเซียจะนิยมน้ำผึ้งสีเข้มๆเนื่องจากต้องการสรรพคุณทางยาที่สูงกว่า
น้ำผึ้งชันโรงเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ด้วยความร้อนเพื่อรักษาสารอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากนำผึ้งชันโรงมีความชื้นในน้ำผึ้งมากกว่าน้ำผึ้งรวงจึงมีกระบวนการหมัก (ferment) เกิดขึ้นช้าๆตามธรรมชาติโดยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ช่วยเพิ่มความสมดุลของระบบลำไส้และมดลูก
จึงอาจพบการเกิดแก๊สหรือฟองบนผิวหรือในตัวน้ำผึ้งชันโรงซึ่งถือว่าเป็นสิ่งปกติและเป็นสิ่งที่แสดงถึงน้ำผึ้งชันโรงแท้ ฟองเหล่านี้เรียกว่า honey foam ซึ่งรับประทานได้ แต่หากไม่ต้องการสามารถตักออกได้หรือปล่อยทิ้งไว้จนฟองยุบตัวและนำน้ำผึ้งแช่ตู้เย็นเพื่อหยุดกลไกการหมัก แต่จากผลการวิจัยพบว่ากระบวนการหมักนี้เองที่มีส่วนเพิ่มปริมาณสารต้าน
อนุมูลอิสระและเอนไซม์ที่มีประโยชน์ต่างๆ นอกจากนี้พบว่ากระบวนการหมักตามธรรมชาติของน้ำผึ้งชันโรงนั้นทำให้เกิดกรดน้ำส้มซึ่งเป็นที่มาของรสเปรี้ยวตามธรรมชาติ
ฟองโฟมที่เกิดขึ้นได้ ในน้ำผึ้งชันโรง ซึ่งแตกต่างจากน้ำผึ้งทั่วไป เนื่องจากในน้ำผึ้งชันโรงมีจุลินทรีย์ โพรไบโอติก ชนิดดี จำนวนมาก
2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสะสูงกว่าน้ำผึ้งธรรมดา 5-10 เท่า
โดยทั่วไปน้ำผึ้งจัดว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) อยู่แล้ว แต่จากงานวิจัยพบว่าน้ำผึ้งชันโรงนั้นมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำผึ้งรวงหลายเท่าตัว โดยอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติจำพวกกรด phenolic และ flavonoid ซึ่งมีอยู่ถึง 99.04±5.14 mg/ml และ 17.67±0.75 mg/ml ตามลำดับ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการเสื่อมของร่างกายและช่วยชะลอความแก่ รักษาอาการเสื่อมของข้อและกระดูก ลดความเสี่ยงของหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจและ
หลอดเลือด โรคสมองเสื่อมเช่น อัลไซเมอร์ หรือ พาร์กินสัน บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา
.
3. เพิ่มสมรรถภาพทางเพศและการเจริญพันธุ์
งานวิจัยพบว่าน้ำผึ้งส่งผลดีต่อภาวการณ์เจริญพันธุ์โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง โดยมีงานวิจัยพบว่าช่วยเพิ่มระยะเวลา (intromission) และเพิ่มการหลั่ง (ejaculation) ในหนูทดลอง และเพิ่มจำนวน (count) การเคลื่อนไหว(motility) และคุณภาพ (quality) ของสเปิร์ม นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มโปรเจสเตอร์โรนหรือฮอร์โมนเพศหญิงและเพิ่มสำเร็จของการตั้งครรภ์
.
4. สมบัติต้านการอักเสบยับยั้งเชื้อโรคและช่วยแผลหายเร็ว
ผลของปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงทำให้น้ำผึ้งขันโรงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) อีกด้วย โดยจะป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายด้วยสาร
อนุมูล นอกจากนี้นำผึ้งชันโรงมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย (anti-bacterial activities) ที่ก่อโรคเช่นแบคทีเรีย S. aureus สมบัติต้านเชื้อโรคนี้ก่อให้เกิดสมดุลของภูมิคุ้มกันของร่างการที่แผล ทำให้กลไกการรักษาตัวเองของร่างกายมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลล์ ซึ่งมีรายงานการรับประทานเพื่อรักษาอาการเจ็บคอ แผลในช่องปาก ตาอักเสบ แผลเบาหวาน หรือ แผลจากมะเร็ง
.
5. น้ำผึ้งชันโรงกับโรคเบาหวาน
เป็นผลวิจัยที่น่าแปลกใจแต่ทราบกันดีในวงการแพทย์ว่าน้ำผึ้งแทบไม่มีผลต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานซึ่งแตกต่างกับน้ำตาล และเป็นสารให้ความหวานที่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
จากงานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Report เมื่อปี 2020 ศึกษาพบว่าเหตุผลที่น้ำผึ้งชันโรงส่งผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวานเพราะในน้ำผึ้งชันโรงนั้นมีน้ำตาลชนิดพิเศษที่ขณะนี้พบในน้ำผึ้งชันโรงเท่านั้น ยังไม่พบในอาหารชนิดอื่นชื่อว่า Trehalulose ที่ไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเฉียบพลันและยัง
เป็นน้ำตาลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low Glycemic Index) และค่าดัชนีอินซูลินต่ำ ( Low Insulinemic Index) จึงเป็นน้ำตาลที่มีประโยชน์และปลอดภัยต่อผู้ป่วยเบาหวาน อีกทั้งยังเป็นน้ำตาลที่ไม่ก่อให้เกิดฟันผุ (acariogenic) และยังให้สาร antioxidant สูงอีกด้วย
.
6. น้ำผึ้งชันโรงกับฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง
มีงานวิจัยพบว่าสมบัติต้านอนุมูลอิสระของน้ำผึ้งชันโรงยับยั้งการเกิดมะเร็งลำไส้ในหนูทดลอง และมีการทดสอบกับเซลล์มะเร็งของมนุษย์ เช่น เซลล์มะเร็งปอด เซลล์มะเร็งตับ เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร เซลล์มะเร็งลำไส้ ซลล์มะเร็งเต้านม เซลล์ไข่ พบว่าน้ำผึ้งชันมีฤทธิ์ต่อต้านเซลล์เหล่านั้นและยับยั้งการแพร่จำนวน แต่ย้ำว่าน้ำผึ้งชันโรงไม่ใช่ยารักษาโรงมะเร็งโดยตรง
.
“น้ำผึ้งชันโรง” ช่วยสร้างเสริมสุขภาพทางเพศได้
น้ำผึ้งชันโรงหรือstingless bee honey ถือว่าเป็นน้ำผึ้งมหัศจรรย์ เป็นยาสมุนไพร ซึ่งมีรสชาติแตกต่างจากน้ำผึ้งทั่วไป น้ำผึ้งชันโรงมีรสออกหวานอมเปรี้ยวไม่ใช่
หวานแบบน้ำผึ้งอุตสาหกรรม น้ำผึ้งชันโรงมีความชื้นสูงเนื่องจากตัวชันโรงเป็นแมลงเก็บน้ำหวานขนาดเล็กกว่าผึ้งปีกเล็กทำให้ไล่ความชื้นในรังได้น้อยกว่า จัดว่าเป็นของหายาก ผึ้งอุตสาหกรรม1ปีเก็บน้ำหวานได้มากกว่า 85 กิโลกรัม ส่วนชันโรงใน 1 ปีเก็บน้ำหวานต่อรังได้ไม่ถึง 1 กิโลกรัม
.
โดยธรรมชาติพฤติกรรมของชันโรงที่แตกต่างจากผึ้งทั่วไปคือ เวลาที่ชันโรงตอมดอกไม้จะเก็บเกี่ยวเกสรจากดอกไม้ไป80 % เก็บน้ำหวานจากเกสรไป20 %แตกต่างจากผึ้งทั่วไปที่จะเก็บเกี่ยวน้ำหวานไป80% เก็บเกสรไปเพียง20 %พฤติกรรมของชันโรงที่เก็บเกี่ยวเกสร80 % นี้เองทำให้วิตามินที่ติดไปกับเกสรซึ่งชันโรงนำกลับไปที่รังทำให้น้ำผึ้งจากชันโรงมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไปเป็นที่ต้องการของตลาดและขายได้ราคาดีกว่าผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งทั่วไป
.
น้ำผึ้งชันโรงไทย (ว่ากันว่าสรรพคุณดีที่สุดในโลก) เป็นที่สนใจของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ราคาน้ำผึ้งชันโรงในประเทศญี่ปุ่นสูงถึง 30,000 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่ง
ประโยชน์ของน้ำผึ้งชันโรงนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น..ช่วยยับยังการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นโทษในระบบทางเดินอาหาร มีสารแอนติออกซิเเดนส์ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ มีวิตามินที่มีประโยชน์มากมายหลายชนิด ช่วยให้ผิวพรรณ ชุ่มชื่น ยับยังการเจริญเติบโตของเซลล์ที่เติบโตผิดปกติในร่างกาย มีสรรพคุณทางยา สูงกว่าน้ำผึ้งปกติถึง 5 เท่า
.
“น้ำผึ้งกับสุขภาพทางเพศ” มีความเกี่ยวข้องกัน และคนโบราณได้ใช้คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งเป็นยาบำรุงสุขภาพทางเพศมาช้านาน วันนี้เรามารับรู้คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งกับสุขภาพทางเพศกันอีกครั้ง
1. น้ำผึ้งอุดมด้วยสารกระตุ้นทางเพศมากมายหลายชนิด เพราะผึ้งจะรวบรวมน้ำหวานและสารอาหารจากมวลดอกไม้นานาพรรณ และสารเหล่านั้นสามารถใช้ปรับปรุงสุขภาพทางเพศของคนเราได้
2. น้ำผึ้งบริสุทธิ์ที่ยังไม่ได้ผ่านความร้อน จะอุดมด้วยสารกระตุ้นทางเพศอ่อนๆ ตามธรรมชาติ มีสารอาหารและแร่ธาตุหลายอย่าง เช่น สังกะสี วิตามินบี วิตามินอี
ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของร่ายกาย และสร้างเสริมสุขภาพทางเพศให้ดีขึ้น ถือเป็นสารกระตุ้นทางเพศอ่อนๆตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายให้กลายเป็นน้ำตาล ช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
3. วิตามินที่เป็นองค์ประกอบสำคัญภายในน้ำผึ้ง จะช่วยเสริมสร้างการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) และ “สารโบรอน” ในน้ำผึ้งจะช่วยให้ร่างกายสร้าง “เอสโตรเจน” (ฮอร์โมนเพศหญิง) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการเร้าอารมณ์เพศ
การรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายให้สูงขึ้น
4. หากรับประทานน้ำผึ้งก่อนนอนเป็นประจำ จะช่วยให้หลับง่าย และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น เชื่อได้ว่าคุณจะมีทุกค่ำคืนที่ปึ๋งปั๋ง สัมผัสได้ถึงการกลับสู่วัยเจริญพันธุ์อีกครั้ง
5. สำหรับผู้ที่มีบุตรยากเนื่องจากฝ่ายชายมีจำนวนอสุจิต่ำ การรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายสามารถเพิ่มจำนวนตัวอสุจิให้สูงขึ้น และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ตัวอสุจิ ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ของร่างกายที่มีหน้าที่ผลิตอสุจิทำงานดีขึ้น
6. ผู้หญิงทานน้ำผึ้งชันโรงช่วงเตรียมผนังมดลูกได้เลยค่ะ มันเพิ่มโปรไบโอติกส์ ในลำไส้ และมดลูก ช่วยปรับสมดุลในมดลูก ผสมลงในน้ำขิงดำครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มก่อนนอน
ผู้หญิงที่เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอก แนะนำทาน วันละ 2 ช้อนโต๊ะ
หลังคลอดลดการอักเสบ ติดเชื้อ ทำให้แผลผ่าตัดหายเร็ว
Comments