มีแม่ๆถามครูก้อยเข้ามาว่า ไปพบแพทย์แล้วตรวจเจอท่อนำไข่ตัน 1 ข้าง ยังมีโอกาสท้องธรรมชาติไหม เพราะรอมานานหลายปีน้องไม่มา ควรฉีดเชื้อทำ IUI เลยหรือปล่าว หรือ ข้ามไป ICSI เลย ครูก้อยขออธิบายดังนี้นะคะ
ท่อนำไข่มี 2 ข้างต่อจากรังไข่ที่มี 2 ข้างเช่นกัน แต่ละเดือนไข่จะโตและตกมาที่ท่อนำไข่ หากทำการบ้านกันเจ้าสเปิร์มก็จะว่ายมาเจอไข่ที่ท่อนำไข่นี้เอง มันจึงคือจุดนัดพบกัน หากท่อนำไข่ตัน หรือถูกตัดทิ้งไป สเปิร์มกับไข่ก็เจอกันไม่ได้ จึงเป็นสาเหตุที่ไม่ท้องนั่นเองค่ะ....แต่! อย่าลืมว่าท่อนำไข่มี 2 ข้าง หากตันข้างเดียว อีกข้างยังทำงานปกติ ก็ยังมีโอกาสท้องธรรมชาติได้ค่ะ อย่างไรก็ตามการตกไข่จะสลับกันตกซ้ายขวาในแต่ละเดือน ดังนั้นยังท้องธรรมชาติได้แต่โอกาสก็น้อยกว่าคนมีท่อนำไข่สองข้าง เพราะหากเดือนนั้นไข่ไปตกในข้างที่ท่อตันก็ไม่มีโอกาสท้อง
.
การทำ IUI เป็นการเอาเชื้อของสามีมาฉีดเข้าไปที่โพรงมดลูกโดยตรง มันไม่ต่างจากธรรมชาติมากนัก แค่เป็นการย่นระยะเวลาให้สเปิร์มเจอไข่ได้เร็วขึ้น ซึ่งสเปิร์มก็จะต้องว่ายผ่านท่อนำไข่ไป หากสตรีท่านใดท่อนำไข่ตันทั้ง 2 ข้าง IUI ก็ไม่ใช่คำตอบค่ะ ต้องข้ามไปทำ ICSI เป็นการปฏิสนธิภายนอกเลย
การทำ ICSI หรือเด็กหลอดแก้วเป็นการเก็บไข่และอสุจิออกมาภายนอกแล้วปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อน เลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะที่เหมาะสมแล้วจึงทำการย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกค่ะ
แต่กรณีที่ท่อนำไข่ตันเพียงข้างเดียวยังทำ IUI ได้ แต่ต้องพิจารณาปัจจัยดังนี้ค่ะ
1. อายุของฝ่ายหญิง
หากอายุ 35 ปีขึ้นไป ไข่เริ่มเสื่อมคุณภาพ IUI อาจมีโอกาสน้อย เพราะมันไม่ต่างจากรอบธรรมชาติมากนัก แต่ถ้ามำ ICSI จะมีการกระตุ้นไข่ ช่วยให้ไข่โตหลายใบ เก็บไข่ได้หลายใบ มีโอกาสมากขึ้นค่ะ
2. คุณภาพของอสุจิ
หากอสุจิไร้คุณภาพ ทำ IUI ไปก็อาจไร้ประโยชน์ค่ะ เพราะอสุจิที่ไม่แข็งแรง รูปร่างผิดปกติ หรือไม่ว่าย หรือมีความผิดปกติทางพันธุกรรม สเปิร์มก็ไม่สามารถเจาะไข่เพื่อปฏิสนธิได้ แต่หากทำ ICSI จะมีการคัดเลือกสเปิร์มตัวที่ดีที่สุด รูปร่างปกติ และสามารถคัดไปถึงตัวที่มี DNA ปกติ แล้วนักวิทย์จะจับสเปิร์มเจาะเข้าเนื้อไข่โดยตรง โอกาสปฏิสนธิจึงสูงขึ้นค่ะ
3.ผนังมดลูก
หากมีปัญหาผนังมดลูกบาง ตัวอ่อนจะฝังตัวยากค่ะ หรือแท้งง่าย การทำ ICSI จะทำให้แม่ๆ มีเวลาเตรียมผนังมดลูก หลังจากเก็บไข่และปฏิสนธิได้ตัวอ่อนฟรีซเก็บไว้แล้ว ก็มีเวลาเตรียมผนังมดลูกให้หนาพร้อมรับการย้ายตัวอ่อนค่ะ
.
.
ดังนั้นแม่ๆ ต้องพิจารณาจากปัญหาของคู่เราเอง นอกจากจะตรวจฝ่ายหญิงแล้ว ต้องชวนคุณสามีไปตรวจวิเคราะห์อสุจิด้วยค่ะ หัวใจที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มโอกาสสำเร็จคือการบำรุงไข่และสเปิร์มล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนไปเก็บไข่และเก็บเชื้อ เพื่อให้ได้วัตถุดิบตั้งต้นที่มีคุณภาพบวกกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสสำเร็จค่ะ
Comments