top of page
ค้นหา

📣อยากท้อง ต้องทานไขมันดี !!


📣อยากท้อง ต้องทานไขมันดี !!


การเลือกทาน “ไขมันดี” หลีกเลี่ยง “ไขมันเลว” ไม่ใช่แค่เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักหรือความอ้วนที่ตามมาเท่านั้น แต่เพราะไขมันเลวหรือไขมันทรานส์ที่มาจากเนื้อสัตว์ติดมันของทอด และขนม นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคอ้วนแล้ว ยังเสี่ยงมีบุตรยากอีกด้วย


.


📚จากการศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับกรดไขมันดีที่ช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ พบว่าไขมันดีประเภท PUFA และ MUFA เป็นไขมันชนิดดีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ช่วยลดความเสี่ยงการมีบุตรยาก


.


📚จากงานวิจัยเรื่อง Effects of Consumption of Various Fatty Acids on Serum HDL-Cholesterol Levels ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Endocrinology & Metabolism ในปี 2018

และ The Effect of MUFA-Rich Food on Lipid Profile: A Meta-Analysis of Randomized and Controlled-Feeding Trials

ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Foods Multidisciplinary Digital Publishing Institute ในปี 2022

.

.


ศึกษาพบว่าการทานไขมันชนิด MUFA หรือ Monounsaturated Fatty Acid คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเป็นไขมันเลว และช่วยเพิ่มระดับไขมันดีในเลือด


📚และจากงานวิจัยเรื่อง Association between polyunsaturated fatty acid intake and infertility among American women aged 20–44 years ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Public Health เมื่อ

ปี 2022 พบว่า ผู้หญิงที่มีปริมาณไขมัน PUFA ได้แก่ DHA และ ALA ต่ำมีความเสี่ยงมีบุตรยากมากขึ้น

.

.

ครูก้อยจึงแนะนำให้ผู้ที่เตรียมมีบุตรหรือมีภาวะมีบุตรยากควรเลือกประทาน “กรดไขมันดี” ในน้ำมัน 9 ชนิดจากธรรมชาติที่มีกรดไขมันดีทั้ง PUFA, MUFA ,ALA ,DHA และ Omega 3,6,9 ที่มีรายงานวิจัยศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ได้แก่


1.นํ้ามันดอกทานตะวัน (Sunflower oil)


อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน PUFAs ซึ่งมีมากกว่า 60% เป็นกรดไลโนเลอิก หรือ กรดไขมันโอเมกา-6 และประกอบด้วยวิตามินอี ธาตุเหล็ก โฟเลต สังกะสี กรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้งหมดนี้มีประโยชน์สําหรับภาวะเจริญพันธุ์ทั้งชายและหญิง ช่วยเพิ่มคุณภาพนํ้าอสุจิ และภาวะเจริญพันธุ์โดยรวม ช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกแข็งแรง ช่วยเพิ่มโอกาสใน

การปฎิสนใจและช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรักษาสมดุลระหว่างฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ป้องกันภาวะประจําเดือนมาไม่ปกติ และภาวะหมดประจําเดือนก่อนวัย ที่เป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยากในสตรี

.

.


2. น้ำมันกระเทียม (Garlic oil)


📚มีรายงานการศึกษาจาก INTERNATIONAL JOURNAL OF RESEARCH IN AYURVEDA AND MEDICAL SCIENCES ปี 2018 เรื่อง บทบาทของกระเทียมในฐานะสารเพิ่มการเจริญพันธุ์ จากการศึกษาพบว่า กระเทียมมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งทำให้สุขภาพทั่วไปดีขึ้นและยับยั้งการแก่ก่อนวัย การศึกษาพบว่าการบริโภคกระเทียมในปริมาณที่เหมาะสมช่วยเพิ่มน้ำอสุจิ จำนวนอสุจิ และปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสารต่อต้านแบคทีเรีย มีคุณสมบัติต้านเชื้อรา ต้านการอักเสบ บำรุงมดลูกและประจำเดือนในสตรี

.

.


3. น้ำมันแฟล็กซีด (flaxseed oil)


มีสารลิกแนน (Lignans) ซึ่งเป็นไฟโตเอสโตรเจน (phytoestrogens) ซึ่งมีมากกว่าพืชชนิดอื่น ถึง 75

เท่า มีการออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกําจัดไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวผ่านการกําจัดของเสียในตับ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลให้การผลิตจํานวนอสุจิและคุณภาพของตัวอสุจิเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มคุณภาพของไข่และโอกาสที่ไข่จะได้รับการปฏิสนธิ

📚มีรายงานการวิจิยใน วารสารด้านโภชนาการNutrients เมื่อปี 2016 พบว่าสารในเมล็ดแฟลกซ์ส่งผลต่อค่า C-reactive protein (CRP) ซึ่งแสดงถึงค่าการอักเสบในร่างกายลดลง

.

.

4.น้ำมันฟักข้าว (Gac oil)


น้ำมันฟักข้าวอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีเบต้าแคโรทีนสูง วิตามินซีสูง ซีแซนทีน วิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมันโอเมก้า3, 6 และ 9 ช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง และการไหลเวียนของเลือดดี ซึ่งเบต้าแคโรทีนในนํ้ามันน้ำมันฟักข้าว เป็นสารอาหารสำคัญสำหรับระบบสืบพันธุ์ ช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ำอสุจิ และการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในอวัยวะสืบพันธุ์และเร่งกระบวนการพัฒนาและการ

ผลิตสเปิร์ม ควบคุมการทํางานของอวัยวะสืบพันธุ์ตลอดจนการยืดอายุของสเปิร์มและเซลล์ไข่ ช่วยในกระบวนการตั้งครรภ์และส่งเสริมด้านพัฒนาการของทารกในครรภ์ ลดอัตราการแท้งบุตรหรือการคลอดก่อนกําหนดอีกด้วย

.

.

5.นํ้ามันอะโวคาโด (Avocado oil)


อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวหรือ (Monounsaturated Fatty Acid) หรือที่เรียกว่า “MUFA” มีผลช่วยลดการอักเสบและปรับปรุงการทํางานของการตกไข่ และการบริโภค MUFA ที่มากขึ้นมีผลทําให้อัตราเกิดสูงขึ้นเกือบ3.5เท่า หลังการย้ายตัวอ่อน มีรายงานการวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารด้านโภชนาการ Nutrients เมื่อปี 2016 พบว่า ผลของการรวมอะโวคาโดในอาหารของมารดาในแต่ละช่วงเวลาตั้งแต่ระยะก่อนปฏิสนธิจนถึงระยะสิ้นสุดการให้นมส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่และลูก นอกจากนี้อะโวคาโดยังอุดมด้วยโฟเลต โพแทสเซียม วิตามินเอ ไฟเบอร์ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน ซึ่งล้วนมีความสําคัญต่ออนามัยการเจริญพันธุ์ การทานอะโวคาโด

เป็นประจํา จะช่วยให้สามารถตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นและทารกมีสุขภาพที่ดีขึ้นโดยมีข้อบกพร่องน้อยลง

.

.

6.น้ำมันงาขี้ม้อน (Perilla oil)

เป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ประกอบด้วยโอเมก้า 3 ร้อยละ 55-60 ของกรดไขมันทั้งหมด ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาทและสมองที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ โอเมก้า6 และโอเมก้า9 ทั้งยังพบสาร Luteolin ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม Flavonoids ที่มีฤทธิ์ต้านภูมิแพ้ และต้านการอักเสบ ทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุฟอสฟอรัส และแคลเซียม ช่วยป้องกันการอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการฝังตัวอ่อน เพิ่มไซโตโคน์ (cytokines) ซึ่งควบคุมการเปิดรับเยื่อบุโพรงมดลูกในการฝังตัวอ่อน

.

.

7.นํ้ามันมะกอก (Olive oil)

อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและอุดมไปด้วยวิตามินอี นอกจากนี้ ยังมีไขมันโอเมก้า 3 มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ โดยมีรายงานวิจัยจาก Wiley Online Library เมื่อปี 2017 รายงานว่า อาหารประเภท 'ปลาและน้ำมันมะกอกสูง เนื้อสัตว์ต่ำ' ของมารดามีความสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนที่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของตัวอ่อนและอัตราการแท้งบุตรลดลง สามารถเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้ถึง 40% มีผลจากการวิจัยพบว่า การให้นํ้ามันมะกอกกับมารดาในระหว่างการตั้งครรภ์มีต่อนํ้าหนักแรกเกิด และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์


นอกจากนี้การบริโภคนํ้ามันมะกอกยังให้ MUFA มากกว่า 80% และกรดไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า 14% โดย MUFA มีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในพลาสมา เพิ่มการไหลของเมมเบรนในตัวอสุจิ และลดการถูกทําลายจากลิพิดเปอร์ออกซิเดชันน้อยลง

.

.

8. น้ำมันสาหร่ายทะเล (Algae oil)


สาหร่ายทะเลสายพันธุ์ (SCHIZOCHYTRIUM SP.) เป็นสาหร่ายที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 หลักสองประเภท EPA และ DHA

📚มีรายงานวิจัยจาก Hum Reprod. เมื่อปี 2017 พบว่าระดับ DHA และ EPA ที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์กับการตั้งครรภ์ทางคลินิกและอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นโดยโอกาสในการเกิดมีเพิ่มขึ้น 8% ของทุกๆ 1% ที่เพิ่มขึ้นของโอเมก้า 3


นอกจากนี้จากการศึกษาพบว่า DHA จากสาหร่าย

มีผลในการเพิ่มขึ้นของ DHA ในฟอสโฟลิปิดในพลาสมาซึ่งช่วยให้ผนังเซลล์แข็งแรงขึ้นและในเม็ดเลือดแดงอีกด้วย


📚ผลการศึกษาจาก Fertility and Sterility เรื่อง Omega-3 fatty acid supplementation and fecundability ใน ปี 2019 ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับการเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3 และความสามารถในการมีลูก โดยได้ทำการศึกษาข้อมูลจากผู้หญิง 900 คน พบว่าผู้หญิงที่ทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ด้วยตัวเองมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ทานอาหารเสริมเกือบสองเท่า และมีรายงานวิจัยจาก Iran J Reprod Med เมื่อปี 2013 ศึกษาพบว่า ในสตรีที่มีนํ้าหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วนที่มีภาวะ PCOS


พบว่าการเสริมโอเมก้า 3 ช่วยปรับการมีประจําเดือนได้อย่างสมํ่าเสมอ และทําให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือ ฮอร์โมนเพศชายที่พบในผู้ป่วยหญิงที่มีภาวะ PCOS ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ

.

.

9.น้ำมันงาขาว (Sesame oil)


อุดมไปด้วยแคลเซียม วิตามินอี ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และลิกแนน มีทองแดงค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ทํา

หน้าที่เป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน และเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี ซึ่งมีความสําคัญต่อการบํารุงรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อการสืบพันธุ์ และมวลกระดูกของเพศหญิง


📚จากผลการศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับการรับประทานงา และการส่งผลต่อฮอร์โมนเพศ สถานะของสารต้านอนุมูลอิสระและไขมันในเลือดในสตรีวัยทอง จากแผนกสูตินรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัย National Taiwan Normal ประเทศใต้หวัน พบว่า การกินเซซามินทำให้ความเข้มข้นของไขมันในพลาสมาลดลง 5% และ ปริมาณไขมันชนิดร้าย LDL-C ลดลง 10% อย่างมีนัยสำคัญ และช่วยในการปรับปรุงการดูดซึม g-tocopherol หรือ วิตามินอี ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรง ป้องกันผนังเซลล์ถูกทำลาย


.

.


กล่าวโดยสรุป ไขมันดีจากจากน้ำมัน 9 ชนิดดังกล่าว นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยส่งเสริมด้านการเจริญพันธุ์ ลดปัญหามีบุตรยาก และช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์มากขึ้นด้วย


โดยแม่ๆ สามารถทานน้ำมันดีในรูปแบบซอฟเจลที่สกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ในการบำรุงสุขภาพและภาวะเจริญพันธุ์เพื่อเป็นตัวช่วยในการเตรียมตั้งครรภ์นะคะ


ดู 57 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page