ผักผลไม้เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ทั้งวิตามินซีที่พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยวเช่น มะนาว มะกรูด ส้ม ฝรั่ง กีวี วิตามินอี เช่น ผักใบเขียวต่างๆ ได้แก่ ผักคะน้า ผักเคล ผักโขม ปวยเล้ง เป็นต้น
นอกจากนี้ในผักผลไม้หลากหลายสี ยังมีสารที่แตกต่างกันไปตามสีสันของผักผลไม้ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของสารอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ไข่ได้เป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างผักผลไม้ที่ช่วยเพิ่มภาวะเจริญพันธุ์
- น้ำมะกรูดสด
สมุนไพรพื้นบ้านของไทยที่คนรุ่นปู่ย่าดื่มบำรุงกันมา ช่วยบำรุงเลือดลม ปรับประจำเดือน เป็นตัวช่วยของคนบำรุงเตรียมท้อง
แม่ๆรู้ไหม จากงานวิจัยศึกษาพบว่านอกจากมะกรูดจะมีวิตามินซีสูงแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า "เควอซิทิน" สูงอีกด้วย ซึ่งเควอซิทินนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่ม "ไบโอฟลาโวนอยด์"
ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนั้นเป็นที่รู้กันดีว่ามันทำหน้าที่กำจัดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังทำหน้าที่ชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ทำหน้าที่คงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวและอวัยวะภายใน ดังนั้นบทบาทหลักของสารต้านอนุมูลอิสระ คือทำหน้าที่ "ลดการสร้าง" อนุมูลอิสระภายในร่างกาย และความเสี่ยงการเกิดความเจ็บป่วยต่างๆ
- มากิเบอร์รี่
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ผลสดของมากิเบอร์รี่ 100 กรัม มีสารแอนโธไซยานิน(Anthocyanin) จัดอยู่ใน กลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระ แหล่งที่อุดมไปด้วยเดลฟินิดินส์ (Delphinidin) ซึ่งพบมากที่สุดในมากิเบอร์รี่ มีปริมาณสูงถึง 30,852 mol TE/g เมื่อเทียบกับบลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่
- ทับทิม
ทับทิมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุมากมายที่จำเป็นต่อร่างกาย การรับประทานทับทิมจะบรรเทาอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า อีกทั้งทับทิมยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กซึ่งมีประโยชน์ต่อเลือด
จากการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่า สารพฤกษเคมีในทับทิมมีฤทธิ์ ต้านอนุมูลอิสระสูง บำรุงเซลล์สืบพันธุ์ ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กระจ่างใส
นอกจากนี้มีงานวิจัยชี้ว่า น้ำทับทิมสกัดมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจโดยสามารถช่วยลดแอลดีแอ
ลคอเลสเทอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเทอรอลไม่ดี ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ดี
- บีทรูท
บีทรูทมีสารไนตริกออกไซด์ที่มีคุณสมบัติทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และยังสามารถลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ลงได้
บีทรูทเต็มไปด้วยธาตุเหล็กจึงดีต่อระบบเลือด ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ดี ซึ่งธาตุเหล็กจะทำหน้าที่ฟื้นฟูเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายดีขึ้น ในบีทรูทยังมีทองแดงซึ่งจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้มากยิ่งขึ้น
เนื้อของบีทรูทเต็มไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยบำรุงสายตา วิตามินบีรวม ตลอดจนมีสารสีแดงในหัวคือ เบทานิน (Betanin) อุดมไปด้วยวิตามินซี มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง ช่วยทำให้เลือดลมดี เพิ่มอ็อกซิเจนให้เลือด และทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
แครอท
ในแครอทมีธาตุเหล็ก และสารอาหารมากมาย เช่น วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ในช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงส่วนมากจะสูญเสียธาตุเหล็กไปมากกว่าปกติส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ผมร่วง ขาดสมาธิ และเป็นโรคโลหิตจางได้
อีกทั้งวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด และควบคุมให้ประจำเดือนมาเป็นปกติได้
- มะเขือเทศ
มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก และยังมีสารจำพวกไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบตาแคโรทีน และช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
- วีทกราส
วีทกราส อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ถึงร้อยละ 70 ซึ่งเป็นสารมีสูตรโครงสร้างใกล้เคียงกับฮีม (heme) สารที่ร่างกายนำไปใช้ในการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง จนได้ชื่อว่าเป็น “เลือดสีเขียว (Green Blood)” มีการศึกษาวิจัยฤทธิ์การเพิ่มจำนวนเม็ดเลือด ช่วยเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดและเพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และช่วยขับสารพิษในร่างกายได้อีกด้วย
ผักผลไม้ที่กล่าวมาเบื้องต้น เป็นเพืยงบางส่วนที่จะช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ การรับประทานผักผลไม้สดจึงเป็นการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย รวมไปถึงเซลล์ไข่ของแม่ๆด้วยนั่นเอง เมื่อเรามีเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์ โอกาสในการปฏิสนธิก็มีสูงขึ้นค่ะ
Comments