คู่สามีภรรยาที่กำลังประสบปัญหาการมีบุตรยากอาจกำลังมองหาวิธีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อการรักษา "การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก" (IUI) เป็นวิธีการหนึ่งที่เป็นการรักษาผู้มีบุตรยาก โดย IUI (Intra Uterine Insemination) #เป็นการปฏิสนธิในร่างกายที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ

วิธีการโดยทั่วไปคือจะมีการกระตุ้นการตกไข่ในผู้หญิง เมื่อขนาดของถุงไข่เจริญเต็มที่ก็ฉีดยากระตุ้นให้ไข่สุกและเกิดการตกไข่

จากนั้นแพทย์จะฉีดน้ำเชื้ออสุจิที่เตรียมจากห้องปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วเข้าไปสู่โพรงมดลูกแล้ว #ให้อสุจิกับไข่ปฏิสนธิกันเอง เป็นการปฏิสนธิในร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีใกล้เคียงธรรมชาติค่ะ

IUI เหมาะกับคู่ของเราหรือไม่

คู่สมรสที่ควรรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีการฉีดเชื้อผสมเทียม

1. คู่สามีภรรยาที่ไม่ทราบสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
2. เพศหญิงอายุไม่เกิน 35 ปี
3. ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่ปกติอย่างน้อยหนึ่งข้าง เพื่อให้อสุจิว่ายไปพบเซลล์ไข่และเกิดปฏิสนธิได้
4. ฝ่ายหญิงมีความผิดปกติ เช่น ปากมดลูกตีบ (Cervical Stenosis)
5. ฝ่ายหญิงมีภาวะไข่ตกผิดปกติ
6. ฝ่ายชายอสุจิผิดปกติเล็กน้อย-ปานกลาง

ดังนั้นจะเห็นว่าการรักษาด้วยวิธี IUI ต้องใช้ #ไข่ และ #อสุจิที่สมบูรณ์ การฉีดเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูกเป็นการ "ย่นระยะเวลา" ที่ให้อสุจิเจอกับไข่ได้ตรงจุดมากขึ้น

อย่างไรก็ตามหากไข่ไม่ตก ไข่ไม่มีคุณภาพ หรือ อสุจิไม่แข็งแรงโอกาสปฏิสนธิก็น้อยลงค่ะ การเตรียมตัวบำรุงไข่และสเปิร์มให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากก่อนเข้าสู่กระบวนการ IUI ค่ะ

#เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ IUI

เคล็ดลับการบำรุงไข่และสเปิร์มให้มีคุณภาพควรบำรุงอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนกระตุ้นไข่และเก็บเชื้ออสุจิค่ะ

#สำหรับฝ่ายหญิง

1. วิธีการที่ต้องทำในฝ่ายหญิงมีการกระตุ้นไข่ให้ไข่โตตามเกณฑ์จากนั้นก็จะฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก

ดังนั้นแม่ๆ #จึงต้องรับประทานอาหารที่มีโภชนาการสูงในการบำรุงไข่ ได้แก่ โปรตีน โดยผู้หญิงบำรุงไข่ต้องทานโปรตีน 1.5 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. เช่น น้ำหนัก 50 กก. ควรทานโปรตีนให้ได้ 75 กรัมต่อวัน

แหล่งโปรตีนที่ดีควรเป็นโปรตีนจากพืช
เช่น ถั่วเหลือง งาดำ เมล็ดฟักทอง ควินัว หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เช่น อกไก่ ปลาแซลมอน ไข่ เป็นต้น

#และต้องเสริมสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกายเพิ่มมากขึ้นในช่วงก่อนกระตุ้นไข่ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญมากในการปกป้องเซลล์ไข่จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระซึ่งเกิดขึ้นได้จากระบบเผาผลาญในร่างกายในชีวิตประจำวัน จากมลภาวะ หรือสารพิษจากอาหารที่เรารับประทาน

การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจะทำให้เซลล์ไข่ไม่ถูกทำลาย มีความสมบูรณ์พร้อม โดยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น น้ำมะกรูด น้ำมะนาว งาดำ เมล็ดแฟล็ก ผักใบเขียวต่างๆ เป็นต้น

2. #ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายใครๆก็รู้ว่าดีต่อสุขภาพ สำหรับแม่ๆที่ทำ IUI นั้น เป็นการปฏิสนธิภายในร่างกาย ดังนั้นเมื่อแพทย์ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกแล้ว โอกาสในการที่ตัวอ่อนจะฝังตัวปัจจัยในเรื่องความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายแม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งด้วย หากสุขภาพไม่แข็งแรง ฮอร์โมนไม่สมดุล โอกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนก็ลดน้อยลงค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นการออกกำลังกายเป็นการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป

การมีน้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ หรือน้ำหนักมากหรือน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมต่อการมีลูกได้ยากขึ้น ความสามารถในการเจริญพันธุ์ลดลง แถมยังเสี่ยงต่อการแท้งง่ายอีกด้วย

การออกกำลังกายดีต่อสุขภาพโดยรวมทั้งหมด เพราะจะทำให้หัวใจ ปอด ระบบไหลเวียนโลหิตแข็งแรง ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ทุกส่วนของร่างกายได้ดี รวมถึงมดลูก และรังไข่ด้วย ทำให้ฮอร์โมนสมดุลโดยธรรมชาติค่ะ

3. #เตรียมผนังมดลูกให้พร้อม

ดังที่กล่าวมาแล้วว่าการทำ IUI เป็นการปฏิสนธิภายในร่างกาย เมื่อแพทย์ฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกฝ่ายหญิงแล้ว เกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่กับอสุจิ ก็จะกลายเป็นตัวอ่อนที่จะฝังตัวที่มดลูกและเจริญเติบโตเป็นทารกต่อไป ดังนั้น #มดลูกจึงปรียบเสมือนบ้านหลังแรกของลูกค่ะ แม่ๆ ที่ทำ IUI นอกจากจะต้องบำรุงไข่ให้สมบูรณ์แล้ว ยังต้องเตรียมบ้านที่แข็งแรงให้ตัวอ่อนฝังตัวด้วย

#มดลูกที่พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนนั้น

#มดลูกต้องอุ่น ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์มากยิ่งขึ้น มดลูกจะอุ่นได้นั้นต้องมีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ ซึ่งเลือดที่ไหลเวียนดีจะนำพาสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะทุกส่วนในร่างกายรวมไปถึงมดลูกด้วย

#ผนังมดลูกต้องหนา ถึงจะพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้ โดยผนังมดลูกที่หนา แข็งแรงพร้อมรับการฝังตัวควรมีความหนาอยู่ที่ 8-10 มิลลิเมตร (ไม่ควรหนาเกิน 14 มิลลิเมตร)

#ใสเรียง 3 ชั้นสวย (Triple lines) ผิวเรียบเห็นเส้นกลางชัดเจน สะอาด ไม่หนาทึบ

#การเตรียมผนังมดลูกให้พร้อม ทำได้ด้วยการทานอาหารที่ให้โปรตีนสูงเพื่อเสริมสร้างให้ผนังมดลูกหนาและแข็งแรงขึ้น

#นอกจากนี้มดลูกที่อุ่น เป็นมดลูกที่ได้รับสารอาหารไปเลี้ยงอย่างเพียงพอเพราะเลือดไหลเวียนดี แม่ๆ จึงควรทานอาหารที่ช่วยในเรื่องระบบโลหิตทำให้เลือดไหลเวียนดี เช่น น้ำขิง น้ำมะกรูด เป็นต้น

นอกจากนี้ "การเคลียร์มดลูกให้สะอาด" ด้วยการดื่มชาดอกคำฝอยซึ่งมีฤทธิ์ในการขับลิ่มเลือด จะช่วยขับประจำเดือนที่คั่งค้าง ทำให้มดลูกสะอาด ไม่มีประจำเดือนเก่าทับถม เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงได้ดี เพิ่มโอกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนค่ะ

#สำหรับฝ่ายชาย

การทำ IUI ต้องมีการเก็บเชื้ออสุจิจากฝ่ายชาย โดยอสุจิจะถูกผ่านกระบวนการเตรียมน้ำเชื้อ
โดยทำการคัดกรอง เลือกเฉพาะตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนไหวดี เพื่อให้แพทย์นำมาฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูก

#ดังนั้นการเตรียมตัวสำหรับฝ่ายชายคือการบำรุงอสุจิให้แข็งแรงก่อนการเก็บเชื้อค่ะ

#การบำรุงสเปิร์ม ทำได้ด้วยการทานอาหารอาหารที่มีโภชนาการสูง เน้นโปรตีน และสารต้นอนุมูลอิสระ สารอาหารและแร่ธาติที่บำรุงสเปิร์ม เช่น #ไลโคปีน จากมะเขือเทศ #เบต้าแคโรทีนจากแครอท #Zinc จากเมล็ดฟักทอง #เซซามีนจากงาดำ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีงานวิจัยรับรองในการเพิ่มคุณภาพของสเปิร์ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องปริมาณ การเคลื่อนไหว และรูปร่างของสเปิร์มที่สมบูรณ์

นอกจากนี้ต้อง "งดพฤติกรรมทำลายสเปิร์ม" ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และทานอาหารที่มีไขมันสูง และต้องพักผ่อนให้เพียงพอ งดการหลั่ง 2-7 วันก่อนไปเก็บเชื้อค่ะ

หากเราบำรุงไข่และอสุจิไปให้แข็งแรงสมบูรณ์ โอกาสในการตั้งครรภ์จากการทำ IUI ก็มีสูงขึ้นค่ะ

ครูก้อยรวบรวมคัมภีร์อาหารบำรุงไข่ บำรุงสเปิร์มก่อนไปทำ IUI ไว้ให้แล้ว ศึกษาและทำตามนะคะ ขอให้ประสบความสำเร็จ มีเจ้าตัวน้อยมาเติมเต็มครอบครัวในเร็ววันค่ะ