ตอบคำถามคาใจแม่
รู้ไหม! ทำการบ้านวันไข่ตกเพิ่มโอกาสท้อง! รู้ได้อย่างไรว่าไข่ตก?
การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากอสุจิเข้าเจาะไข่ที่ตกลงมาในแต่ละรอบเดือน แล้วเกิดการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อน ฝังตัวในโพรงมดลูกเติบโตเป็นทารกน้อยๆในครรภ์ต่อไป จึงจำเป็นที่คุณแม่ต้องวางแผนวันปั๊มเบบี๋ให้ตรงกับวันไข่ตก หรืออยู่ให้ช่วงวันไข่ตก
วันไข่ตกของผู้หญิงคือวันที่ไข่ เพื่อเพิ่มโอกาสในตั้งครรภ์ โดยวันตกไข่จะมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมน LH หรือ เรียกว่าฮอร์โมนไข่ตก
“ฮอร์โมนไข่ตก" เป็นฮอร์โมนที่ปล่อยไข่ให้ตก พร้อมสำหรับการปฏิสนธิ เป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นจากต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) โดยฮอร์โมน LH จะทำหน้าที่กระตุ้นไข่ในเพศหญิงให้ตกลงมาตามรอบเดือน หากไม่มีฮอร์โมนดังกล่าวจะไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ ฮอร์โมน LH จะหลั่งออกมาในช่วงที่จะมีการตกไข่ ซึ่งจะมีผลทำให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมาเพื่อรอการปฏิสนธิ
วันไข่ตกของผู้หญิงแต่ละคนต่างกันค่ะ ขึ้นอยู่กับรอบเดือนว่ากี่วัน (แม้คนเดียวกันแต่ละเดือนวันตกไข่ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ) การใช้แอพไข่ตกเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถคำนวณคร่าวๆ วันไข่ตกของรอบเดือนได้ แต่ถ้าอยากรู้ชัวร์ว่าไข่ตกตรงวันหรือไม่ ควรใช้ชุดตรวจไข่ตกร่วมด้วยค่ะ
● ไข่ตกวันไหนของรอบเดือน?
ผู้หญิงที่รอบเดือนปกติ คือ 28 วันมาที่ เป็นแบบนี้เสมอๆ ทุกเดือน ไข่มักจะตกใน Day14 ของรอบเดือนค่ะ
👉 การนับรอบเดือน ให้นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็น Day 1 วันสุดท้ายคือวันก่อนที่ประจำเดือนรอบถัดไปมาอีกครั้ง เช่น ประจำเดือนมาวันแรกวันที่ 1 มีนาคม นับเป็น Day 1 ประจำดือนมารอบถัดไปวันที่ 29 มีนาคม แสดงว่า เรามีรอบเดือน 28 วันค่ะ
👉วันไข่ตก คือ เอาจำนวนรอบเดือนลบ 14 ดังนั้นไข่ก็จะตกใน Day 14 ของรอบเดือนค่ะ
#คนที่รอบยาว ไข่ก็จะตกเลทออกไป เช่น ถ้าคุณมีรอบเดือน 35 วัน ไข่ก็จะตกใน Day 21 ค่ะ (35-14=21)
#คนรอบสั้นไข่ก็จะตกก่อน เช่น มีรอบเดือน 21 วัน ไข่ก็จะตกใน Day 7 ของรอบเดือน เป็นต้น
‼️แต่ 2 กรณีหลังนี้ ไข่มักจะไม่ค่อยมีคุณภาพนะคะ ทำให้ท้องยากกว่าคนที่รอบปกติ 27-28-29 วัน
.
●ตรวจไข่ตกด้วยชุดทดสอบการตกไข่
ชุดทดสอบฮอร์โมนตกไข่ (LH) เป็นชุดทดสอบ Luteinizing hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บอกถึงการตกไข่ หากมีฮอร์โมนตัวนี้แสดงว่าร่างกายมีการตกไข่ ไข่โตสมบูรณ์พร้อมตก โดยเช็คได้จากปัสสาวะ
โดยสามารถใช้ Application ในการนับวันไข่ตกร่วมเพื่อสามารถทราบช่วงเวลาคร่าวๆจากนั้นควรเช็คจากปัสสาวะด้วยชุดตรวจไข่ตกล่วงหน้าสัก 2-3 วันเพื่อความแม่นยำ โดยลองเช็คตั้งแต่ Day 10-16 ของรอบเดือน เพราะไข่อาจตกก่อนหรือหลังวันที่คำนวณไว้ก็ได้ เนื่องจากผู้หญิงแต่ละคนจะมีช่วงเวลาของการตกไข่ไม่ตรงกัน หากเจอ 2 จีดจางแสดงว่าไข่ยังไม่ตก ต้องเป็นสองขีดเข้มเท่ากันทั้งสองเส้น ทั้งเส้นควบคุบและเส้น LH จึงแสดงว่ามีไข่ตกค่ะ
ทีนี้ก็จะได้รู้ชัวร์ๆ ว่าวันที่คำนวณไว้มีไข่ตกจริงหรือไม่นั่นเอง
ชุดทดสอบฮอร์โมน LH จะใช้ตัวอย่างปัสสาวะในการตรวจ โดยเวลาที่เหมาะสมกับการตรวจ คือ การปัสสาวะในช่วงบ่ายโมงถึง 2 ทุ่ม เพราะปัสสาวะจะมีความเข้มข้นของ LH มากที่สุด
ผลตรวจของอุปกรณ์ตรวจการตกไข่จะให้ผลเป็นขีด 2 ขีดบนชุดตรวจ และต้องเป็นสองขีดเข้มเท่ากัน
ชุดตรวจไข่ตกมี 4 แบบ
(1) ชุดตรวจสอบไข่ตกแบบจุ่มลงในถ้วยปัสสาวะ (Strip)
(2) ชุดตรวจสอบไข่ตกแบบหยดปัสสาวะลงบนอุปกรณ์ (Cassette)
(3) ชุดตรวจสอบไข่ตกแบบปัสสาวะผ่านชุดตรวจสอบ (Midstream)
(4) ชุดตรวจสอบไข่ตกแบบดิจิตอล (Digital Ovulation Test)
.
●ตรวจเจอวันไข่ตกแล้วต้องทำการบ้านตอนไหน?
ภายใน 24-36 ชม.หลังตรวจเจอไข่ตกค่ะ ถ้าเป็นไปได้ให้มีทันทีที่ตรวจเจอ (บางคนไข่ตกเร็วกว่า 24-36 ชม. ก็มีค่ะ) แล้วไปซ้ำอีกทีในอีกวันถัดไปค่ะ
รู้ไหม? อสุจิเข้าไปอยู่ในช่องคลอดของฝ่ายหญิงได้นาน 3-5 วัน หากนับวันไข่ตกเป็น การทำการบ้านล่วงหน้าและช่วงวันไข่ตกจนถึงหลังวันไข่ตก จะเป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ
#เมื่อนับวันไข่ตกได้แล้ว เคล็ดลับคือให้รีบทำการบ้านรอไว้ได้เลยล่วงหน้า 2-3 วันก่อนวันไข่ตกนะคะ (ก่อน Day14) เพราะเจ้าอสุจิเค้าเข้าไปอยู่ในช่องคลอดฝ่ายหญิงได้ถึง 3-5 วัน เมื่อไข่ตกลงมา เจ้าอสุจิก็จะได้รอเจาะอยู่แล้วทันท่วงที อย่ารอแค่ Day14 เพราะธรรมชาติไม่แน่นอน 100% นะคะ และเมื่อไข่ตกลงมาจะมีอายุแค่ 12-24 ชม. หากทำการบ้านไม่ทัน ไข่ก็ฝ่อสลายไป ต้องรอลุ้นรอบเดือนหน้าค่ะ
#เทคนิคคือ "ช่วง fertile window" หรือ ช่วงไข่สุก ทำคร่อมหน้าคร่อมหลัง 5 วันรวด ช่วงนี้เลยค่ะ
ให้ทำตั้งแต่ Day11-Day15 ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ
.
.
สุดท้ายแล้วแม้จะทำการบ้านกันในวันไข่ตกแล้วก็ตาม ใช่ว่าจะท้องเสมอไปค่ะ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ควบคุมอยู่ เช่น ไข่ที่ตกในรอบนั้นไม่สมบูรณ์ ใบเล็กหรือไข่ไม่มีไข่แดง (นิวเคลียส) หรือโครโมโซมผิดปกติ ก็ไม่ท้องค่ะ หรือฝ่ายหญิงท่อนำไข่ตีบตัน อันนี้ก็ไม่ท้องค่ะ หรือต่อให้ฝ่ายหญิงไข่สวยสมบูรณ์ดี แต่สเปิร์มของฝ่ายชายไม่แข็งแรง รูปร่างผิดปกติ เชื้อน้อย เชื้อไม่วิ่ง เชื้อไม่มีพลังพอที่จะเจาะไข่ ก็อดค่ะ
หรือแม้แต่ไข่กับสเปิร์มอุตส่าห์มาเจอกันได้แล้ว ปฏิสินธิกันเรียบร้อยแล้ว แต่พอย้ายไปฝังตัวที่โพรงมดลูกกลับฝังไม่ติด เพราะผนังมดลูกบาง เป็นเนื้องอกที่มดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือฮอร์โมน TSH สูง (ไทรอยด์)ขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน เป็นต้น
อันนี้ก็เป็นอีกหลากหลายสาเหตุของการมีลูกยากค่ะ